จับมือยิงอดีต ผจก.แบงก์ 14 นัด เสียชีวิต

สระบุรี 21 ต.ค. – รวบมือยิงอดีตผู้จัดการธนาคารเสียชีวิต พบเป็นเพื่อนบ้านวัย 70 ปี ส่วนสาเหตุเบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุกับผู้ตายเคยมีปัญหาและโต้เถียงกันมาตลอด จึงก่อเหตุเพราะความแค้น


กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะผู้ตายคือ นายสมเพ็ญ อายุ 58 ปี หรือ “เสี่ยเปี๊ยก” เดินผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่งในซอยพิชัยรณรงค์สงคราม 19 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 7 นัด แล้วได้ยินเสียงผู้ตายเหมือนร้องขอชีวิตตามมา แต่เหมือนคนร้ายไม่สนใจคำร้องขอชีวิต และตามเข้ามาไปยิงซ้ำอีก 7 นัด ก่อนหลบหนีไป

สำหรับเหตุการณ์เกิดเมื่อคืนวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งคลิปภาพวงจรปิดชิ้นนี้คือกุญแจสำคัญในการคลี่คลายคดีสะเทือนขวัญเมืองสระบุรี


ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เรียกประชุมชุดสืบสวนภาค 1, ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฯ และชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี เข้าประชุมหาเบาะแสคลี่คลายคดีดังกล่าว รวมถึงตรวจสอบลักฐานอื่นๆ

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี บอกว่าคดีคืบหน้าไปมากพอสมควร ซึ่งอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ คาดว่าคดีนี้คงใช้เวลาไม่นาน เพราะไม่มีความยุ่งยากหรือซับซ้อน

สำหรับนายสมเพ็ญถูกยิงเข้าตามร่างกายด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณอกซ้าย อกขวา ไหปลาร้าขวา ท้อง แขนซ้าย และขาทั้ง 2 ข้าง เมื่อคืนวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่าผู้ตายมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง อีกทั้งทำธุรกิจฝากขายและจำนองบ้าน ทำให้ตำรวจพุ่งเป้าไปที่ประเด็นความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ


อย่างไรก็ตาม บรรดาญาติและคนในครอบครัวต่างบอกว่าที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับธุรกิจกับใคร แต่มีข้อมูลว่าผู้ตายเป็นคนพูดจาเสียงดัง ขณะที่ส่วนชุดสืบสวนฯ ตั้งข้อสังเกตว่ามือปืนที่ยิงผู้ตายมากถึง 14 นัด น่าจะโกรธแค้นผู้ตายพอสมควร จึงกระหน่ำยิงอย่างโหดเหี้ยม

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้รับรายงานกระแสข่าวเกี่ยวกับการจับกุมผู้ก่อเหตุยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ได้แล้ว จึงโทรศัพท์สอบถามพลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งยืนยันว่าตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้จริง โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 70 ปี และมีบ้านใกล้เคียงกับผู้ตาย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุกับผู้ตายเคยมีปัญหาและเคยด่าทอหรือโต้เถียงกันมาตลอด จึงก่อเหตุเพราะความแค้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงรายละเอียดของคดีในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง