ทำเนียบ 14 ต.ค.- ศบค. ยกเลิกกลุ่มประเทศดินแดนเสี่ยงโควิด เตรียมเปิดพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวใน 15 จังหวัด ตามแผนเปิดประเทศระยะแรก 1 พ.ย.นี้
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์เตรียมเปิดประเทศช่วงปลายปีนี้ ที่ประชุมได้ให้ยกเลิกดินแดงความเสี่ยงของโควิด-19 เนื่องจากการปรับข้อมูลและเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องเดิม จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คุยกัน ทำให้ต้องยกเลิกไป เพราะต่างประเทศก็ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และเกณฑ์ต่างๆ ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังกำหนดมาตรการบุคคล ทั้งการฉีดวัคซีน การตรวจหาเชื้อและการกักกัน ฉะนั้นเรื่องการกำหนดประเทศต่างๆ ขอยกเลิกไป
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเปิดประเทศนั้น เข้ามาแล้วต้องมีพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว อย่างพื้นที่ จ.ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา และกระบี่ จากการศึกษาพบทำได้ดี ที่ประชุมจึงพูดคุยและขยายพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว โดยระยะที่ 1 วันที่ 1-30 พ.ย. ประกอบด้วย 15 จังหวัดคือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ) กระบี่ (ทั้งจังหวัด) พังงา (ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก) เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ) ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ เกาะสีชัง อำเภอศรีราชา) ระนอง (เกาะพยาม) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า) เลย (เชียงคาน) บุรีรัมย์ (เมือง) หนองคาย (เมือง ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ สังคม) อุดรธานี (เมือง นายูง หนองหาน ประจักษ์ศิลปาคม กุมภวาปี บ้านดุง) ระยอง (เกาะเสม็ด) และ ตราด (เกาะช้าง) จากนั้นเดือน ธ.ค.จะปรับเพิ่มพื้นที่สีฟ้าอีก 16 จังหวัด อาทิ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ สุโขทัย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ต้องปรับมาตรการของผู้เข้าประเทศ อาทิ ลดวันกักตัว การตรวจหาเชื้อ และค่าเงินประกัน โดยที่ประชุมเห็นชอบการจัดทำแผนการรองรับการเปิดประเทศ และการระบาดโควิด 19 ปี 2565 ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์ ดังนี้ 1.การเปิดประเทศอย่างปลอดภัย 2.การเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มเสี่ยง และสถานที่เสี่ยง กลุ่มเปราะบาง 3. การเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข 4.การพัฒนาระบบข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารความเสี่ยง 5. การสร้างกลไกการบริหารจัดการแบบบูรณาการ ส่วนรายละเอียดจะต้องพูดคุยกันต่อ รวมถึงการจัดระบบแรงงานต่างด้าว และการเข้าเมืองต่างๆ โดยทุกอย่างอยู่ระหว่างการทำแผน โดยในช่วง 2 เดือนที่เหลือให้เร่งทำแผนและถ่ายทอดออกไป โดยให้วันที่ 1-30 พ.ย. เป็นระยะที่ 1 ให้ดำเนินการตามแผน และระยะที่ 2 ก็ดำเนินการและประเมิน ระยะที่ 3 คือ วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป และขณะนี้ให้ที่ประชุม ศปก.ศบค. ไปพิจารณาการเข้าประเทศแบบไม่กักตัวและจำกัดพื้นที่ โดยมีแนวทางตามที่สธ.เสนอ ซึ่งวันนี้(14 ต.ค.)ยังไม่ได้บอกประเทศเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย