นครสวรรค์ 23 ส.ค. – กระจายกำลังเร่งสอบสวนปมผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหารีดเงินยาเสพติดจนเสียชีวิต ตำรวจคาดว่ารู้ผลสอบภายใน 30 วัน ขณะที่พ่อ แม่ ภรรยาผู้เสียชีวิต และชุดจับกุม ถูกเรียกมาแยกสอบเครียด
หลังมีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปประจำตำรวจภูธรภาค 6 จากกรณีถูกกล่าวหาพัวพันใช้ถุงดำคลุมหัวรีดเงิน 2 ล้านบาท จากสามีภรรยาที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ทำให้ฝ่ายชายขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม โดยพลตำรวจตรีระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เรียกประชุมคณะทำงานกำหนดแนวทางการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่ง ผบ.ตร. กำชับให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และวันนี้มีจเรตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางมาติดตามคดีด้วย
ผลประชุมได้แบ่งคณะทำงานเป็น 2 ส่วน โดยทีมของจเรตำรวจจะไปสอบ ปากคำพ่อ แม่ และภรรยาของผู้เสียชีวิต ส่วนทีมตำรวจภูธรนครสวรรค์จะเรียกผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องที่เป็นชุดจับกุม มาสอบข้อเท็จจริง
เมื่อมาร์กจุดได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ลุยไปสอบปากคำ โดยพันตำรวจเอกณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รักษาการผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ นำทีมไปสอบที่ สภ.เมืองนครสวรรค์, พันตำรวจเอกสุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ใช้กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์ สอบสวน และหัวหน้าชุด พันตำรวจเอกสมชาย จันทร์คง รองผู้บังคับการ สภ.นครสวรรค์ ใช้ห้องประชุมภูธรจังหวัดนครสวรรค์ แยกกันสอบ เจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ หรือที่เรียกกันว่าชุด 05 จำนวน 13 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมนายจิระพงศ์ พร้อมภรรยา มาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครสวรรค์
โดยตำรวจชุด 05 ถูกแยกสอบตลอดทั้งวันด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด ไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ หน้าประตูมีตำรวจยืนเฝ้า 2 นาย ตลอดการสอบสวน เพราะมีข่าวลือว่าหนึ่งในชุดจับกุม ยศดาบตำรวจ มีคลิปตอนที่ใช้ถุงคลุมหัวผู้ตาย เตรียมเผยแพร่ ทำให้ทั้งชุดสอบสวนข้อเท็จจริง และชุดทำงาน 05 กังวลในคำให้การ ย้ำว่าทั้งหมดที่สอบสวน “ไม่ใช่ผู้ต้องหา” เป็นเพียงพยานแวดล้อมเพื่อหาข้อเท็จจริงเท่านั้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่าชุดสอบสวนตั้งประเด็นการสอบพุ่งเป้าไปหาข้อเท็จจริงที่ว่าในวันเกิดเหตุมีใครร่วมจับกุมบ้าง เกิดอะไรขึ้น ใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะจุดที่จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปจับมาจากไหน ก่อนนำตัวมา สภ.เมืองนครสวรรค์ และใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้างในวันเกิดเหตุ ซึ่งรายละเอียดยังเปิดเผยไม่ได้
ด้านชุดสอบสวนหาข้อเท็จจริงในส่วนของจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดยพลตำรวจตรีภูริวัจช พูลสวัสดิ์ ผบก.กก.6 จเรตำรวจ พร้อมด้วยชุดสอบสวน เดินทางไปบ้านของพ่อ แม่ และภรรยาของผู้ตาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองตาคลี เพื่อเชิญมาสอบปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี แต่เรืออากาศตรีจักรกฤษ พ่อของผู้ตาย ไม่ยอมไป บอกจะขอให้การที่บ้านพักเท่านั้น พร้อมกับยืนยันว่าไม่ติดใจเอาความ และย้ำว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะมีหลายโรครุมเร้า
ส่วนนางจันจิรา แม่ของผู้ตาย และนางสาวกมลวรรณ ภรรยาผู้ตาย และพยานจำนวนหนึ่ง ยอมมาให้ปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี ซึ่งเจ้าหน้าที่นำตัวทั้งหมดขึ้นไปยังห้องสอบสวนชั้น 2 ทันที และห้ามไม่ให้สื่อเข้าไปสังเกตการณ์ โดยย้ำว่าเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากประชาชน ผู้บังคับบัญชาจึงกำชับให้ทำหน้าที่อย่างรอบคอบ และขณะนี้ได้แยกห้องสอบแม่และภรรยาผู้ตาย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงมากที่สุด
นอกจากพ่อ แม่ ภรรยา รวมถึงชุดจับกุม ที่ถูกเรียกมาสอบ ชุดสอบสวนยังได้ทำหนังสือแจ้งผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่ถูกเด้งไปภาค 6 และเจ้าหน้าที่ รพ.พริ้นซ์ปากน้ำโพ เจ้าหน้าที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ที่ชันสูตรพลิกศพ ให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ศพ เนื่องจากขณะนี้ศพถูกเผาไปแล้ว ส่วนตัวผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ มีรายงานว่าเมื่อเช้าได้มาเซ็นชื่อรายงานตัวที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก แล้ว แต่ไม่มีรายงานแน่ชัดว่ากี่โมง
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ สมัยที่ทำงานเป็น รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ทำงานในตำแหน่งรองสืบฯ ขณะเดียวกันยังทำงานเหมือนกับเลขานุการส่วนตัวกับผู้บัญชาการภาค 6 เสมือนเป็นญาติกัน มีการทำคดีสำคัญ อาทิ ปิดคดียิง 3 ศพ ของคนใน สวท.พิษณุโลก เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กระทั่งนั่งตำแหน่งรองกำกับสืบสวนจนครบวาระ และ ผบช.ภาค 6 เซ็นคำสั่งให้ไปนั่งตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.นครสวรรค์ในที่สุด
กรณีนี้ต้องย้ำว่าคณะทำงานที่เป็นชุดสืบสวนพยายามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุเส้นทางเลี่ยงเมือง เรื่อยมาจนถึงโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ ว่าในวันเกิดเหตุมีใครจับกุมตัวนายจิระพงศ์ และภรรยา มาสอบสวนและเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะประเด็นผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปร่วมสอบผู้ตายด้วยหรือไม่ ซึ่งมีรายงานว่าจุดที่นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีชื่อเรียกว่า ”บ้านกาแฟ” ตั้งอยู่ใน สภ.เมืองนครสวรรค์ หากรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดได้จะทำให้รู้เส้นทางการนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน เส้นทางการนำส่งโรงพยาบาล และทราบว่ามีใครเกี่ยวข้อง และมีหน้าที่ทำอะไรบ้างในเรื่องนี้
ด้านพลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏขณะนี้อาจทำให้ประชาชนสับสนในข้อเท็จจริงหลายอย่าง เพราะพ่อบอกอีกอย่าง แต่มีการกล่าวหาอีกอย่าง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจนและโปร่งใส โดยยึดตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โดยไม่ใช้ความรู้สึกมาเป็นคำตอบ รวมถึงจะให้ความเป็นธรรม และไม่ช่วยเหลือตำรวจด้วยกันเด็ดขาด .-สำนักข่าวไทย