กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – ศบค.เผยตัวเลขโควิด-19 ยอดติดเชื้อนิวไฮ 10,082 ราย เสียชีวิต 141 ราย พบติดเชื้อหลังเสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย และเจอคลัสเตอร์ใหม่ 10 แห่ง ใน 8 จังหวัด
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันนี้ (17 ก.ค.) ว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 10,082 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,913 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 42 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 127 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อใน กทม. และปริมณฑล 4,841 ราย ส่วนใน 4 จังหวัดภาคใต้ 824 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 จำนวน 363,126 ราย หายป่วยเพิ่ม 6,327 ราย หายป่วยสะสม 250,758 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับ 1 ยังคงเป็น กทม. 2,302 ราย รองลงมา คือ สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี นนทบุรี นครปฐม สงขลา ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา และยะลา
ศบค.ยังรายงานถึงผู้เสียชีวิตเพิ่ม 141 ราย เป็นชาย 73 ราย หญิง 68 ราย จาก กทม. 71 ราย นนทบุรี 18 ราย สมุทรสาคร 7 ราย ปทุมธานี 6 ราย นครปฐม 5 ราย อุบลราชธานี 4 ราย นราธิวาส ปัตตานี และกาญจนบุรี จังหวัดละ 3 ราย ยะลา ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี และอุดรธานี จังหวัดละ 2 ราย สมุทรปราการ สงขลา สระแก้ว เชียงราย กำแพงเพชร ชัยภูมิ นครนายก อ่างทอง นครพนม นครราชสีมา และหนองบัวลำภู จังหวัดละ 1 ราย โดยมีค่ามัธยฐาน ระยะเวลาทราบผลติดเชื้อถึงเสียชีวิต 8 วัน นานสุด 44 วัน และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 2 ราย ใน จ.นนทบุรี และปราจีนบุรี ซึ่งพบเชื้อหลังเสียชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ 110,565 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในโรงพยาบาล 63,542 ราย อยู่ในโรงพยาบาลสนาม 47,023 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,454 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 839 ราย
สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่ม 272,653 ราย สะสม 10,697,578 ราย ส่วนเข็มที่ 2 เพิ่ม 31,481 ราย สะสม 3,432,911 ราย
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 55 มีสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ อินเดีย บราซิล รัสเซีย ฝรั่งเศส ตุรกี สหราชอาณาจักร ตามลำดับ
ศบค.ยังรายงานพบการระบาดในจังหวัดที่ผู้ป่วยเพิ่มเป็นคลัสเตอร์ใหม่ คือ โรงงานอาหารทะเลแช่แข็งที่สมุทรสาคร 39 ราย บริษัทชิ้นส่วนโลหะที่ชลบุรี 13 ราย โรงงานเฟอร์นิเจอร์ที่บางบัวทอง 20 ราย แคมป์ก่อสร้างที่บางกรวย 16 ราย โรงงานเครื่องหอมที่สามพราน 15 ราย และโรงงานจอทีวีที่ศรีมหาโพธิ์ 25 ราย ตลาดเจ้าพรหมพระนครศรีอยุธยา 7 ราย โรงงานเครื่องกลึงที่วังน้อย 9 ราย โรงงานปูนที่แก่งคอย 12 ราย และโรงงานผลไม้กระป๋องที่ท่ามะกา 47 ราย. – สำนักข่าวไทย