เปิดแล้ว! ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ (สถานีกลางบางซื่อ)

กรุงเทพฯ 21 พ.ค.- ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ​ (สถานีกลางบางซื่อ) เตรียมประเดิมฉีดวัคซีนบุคลากรเสี่ยงด้านคมนาคมขนส่ง พื้นที่ กทม.-ปริมณฑล จำนวน 6.75 หมื่นคน ดีเดย์ 24 พ.ค.นี้ รองรับได้วันละ 1 หมื่นคน พร้อมจัด Shuttle Bus รับ-ส่ง 3 เส้นทาง ส่วนประชาชนทั่วไป ลงทะเบียนที่จุดบริการได้วันที่ 7 มิ.ย.-ธ.ค.นี้

นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​ (สธ.) พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล โดยนายอนุทินกล่าว​ว่า การจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ​ (สถานีกลางบางซื่อ) ดำเนินการตามที่กระทรวงคมนาคม ได้ทำหนังสือเพื่อขอให้ สธ. พิจารณาเร่งฉีดวัคซีนแก่พนักงานที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในระบบคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก น้ำ ราง และอากาศ เนื่องจากเป็นบุคลากรกลุ่มเสี่ยง มีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และอาจจะแพร่ระบาดไปสู่ผู้ใช้บริการอื่นได้​


กระทรวงคมนาคมได้ส่งรายชื่อมาทั้งหมดกว่า 3​50,000 คน โดยจะดำเนินการฉีดวัคซีน จำนวน 6​0,000 คน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ​ (สถานีกลางบางซื่อ) ซึ่งในจำนวนดังกล่าว รวมผู้ให้บริการรถแท็กซี่​ รถจักรยานยนต์สาธารณะ (มอเตอร์ไซค์วิน) รถตุ๊กตุ๊ก รถโดยสารประจำทาง ผู้ให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นแล้ว ฯลฯ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. 2564 ช่วงเวลา​ 09.00-20.00 น. เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถรองรับให้บริการการฉีดวัคซีนได้วันละประมาณ 10,000 คน โดยยืนยันว่าสถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อม มีขนาดใหญ่ ช่วยลดความแออัดจากสถานพยาบาลต่างๆ ได้ ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดด้วย เกิดความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนด้วย

หลังจากนี้ มีแผนที่จะใช้สถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน โดยในระยะแรกจะเน้นกลุ่มองค์กร​ส่วนราชการของกระทรวงต่างๆ ก่อน  หากครบทั้งหมดแล้ว จึงจะพิจารณาจัดสรรฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไปในอนาคต นอกจากนี้ ยังระบุว่า หากหน่วยงานใด มีสถานที่ขนาดใหญ่ และสามารถรองรับประชาชนได้ ขอให้นำเสนอมายัง สธ. เพื่อพิจารณาจัดเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลให้กับประชาชนต่อไป ในส่วนของวัคซีนโควิด-19 ที่นำมาฉีดนั้น ยืนยันว่าเพียงพอต่อผู้ที่จะรับการฉีดอย่างแน่นอน


นายศักดิ์สยาม กล่าวยืนยันว่า สถานที่ที่สถานีกลางบางซื่อมีความพร้อม 100% แล้ว ทั้งขั้นตอนการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ การลงทะเบียนแบบ Qr Code รวมถึงพื้นที่รับวัคซีน ซึ่งสามารถรองรับได้ชั่วโมงละ 900 คน และบริเวณจุดพักรอสังเกตอาการ รองรับได้ชั่วโมงละ 1,800 คน โดยเฉลี่ยอัตราการรองรับได้วันละประมาณ 10,000 คน ทั้งนี้ ในแต่ละคนนั้น จะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 15 นาที และเวลาพักรอสังเกตอาการอีก 30 นาที รวมเป็น 45 นาทีต่อคน  สำหรับบุคลากรกลุ่มเสี่ยงของกระทรวงคมนาคม ซึ่งรวมหน่วยงานในสังกัด และผู้ให้บริการรถขนส่งสาธารณะ ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 352,784 คน แบ่งเป็น บุคลากรรัฐกลุ่มเสี่ยง จำนวน 58,726 คน และบุคลากรขนส่งภาคเอกชนกลุ่มเสี่ยง 293,058 คน ทั้งนี้ ในจำนวนดังกล่าว ในระยะที่ 1 ที่จะดำเนินการฉีดที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล รวมจำนวน 67,545 คน แบ่งเป็น บุคลากรรัฐ จำนวน 45,542 คน และบุคลากรขนส่งเอกชน จำนวน 22,003 คน โดยในวันที่ 24 พ.ค. 2564 ซึ่งถือเป็นวันแรกนั้น คาดว่า จะสามารถฉีดวัคซีนได้ประมาณ 5,000 คน ขณะที่ บุคลาการส่วนที่เหลือ อีก 285,239 คน คาดว่าจะฉีดวัคซีนได้ทั้งหมดภายใน 2-3 เดือน

ด้านแพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อนั้น จะสามารถเปิดให้บริการ แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ 1.ช่วงรองรับองค์กร หน่วยงานที่ดูแลประชาชน บุคลากรของกระทรวงคมนาคม และผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ หน่วยงานในสังกัด ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.-6 มิ.ย. 2564 และ 2.เร่ิมดําเนินการสําหรับประชาชน 7 มิ.ย. 64 – ธ.ค. 2564 โดยรองรับได้วันละประมาณ 10,000 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มองค์กร วันละประมาณ 3,000 คน, 2.กลุ่มประชาชน On site ณ จุดบริการ วันละประมาณ 2,000 คน และ 3.กลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านเครือข่ายมือถือ (AIS, DTAC, TRUE) และแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม วันละประมาณ 5,000 คน

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สำหรับ​ “ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ” จะใช้พื้นที่ 14,294 ตร.ม. หรือประมาณ 80% ของพื้นที่ชั้นล่างสถานีฯ กับบางส่วนของพื้นที่ชั้นลอย แบ่งเป็น 4 จุดบริการ ได้แก่ จุดชั่งน้ำหนัก วัดความดัน รองรับได้ 1,400 ที่นั่ง, จุดลงทะเบียน เซ็นใบยินยอม จำนวน 179 โต๊ะ, จุดฉีดวัคซีน จำนวน 100 จุด, จุดพักรอสังเกตอาการ 30 นาที จำนวน 800 ที่นั่ง และจะมีการติดสติกเกอร์แสดงสัญลักษณ์ให้ผู้ที่ฉีดแล้ว


นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดบริการครบวงจรให้ผู้ป่วยเปราะบาง ที่ต้องนั่งรถเข็น และมีสุขภาพไม่แข็งแรง ขณะเดียวกัน​ กระทรวงคมนาคม ยังได้จัดเตรียมความพร้อมของระบบขนส่งรองรับการเดินทางด้วย อาทิ รถชัตเติลบัส 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 ท่าเรือบางโพ-สถานีเตาปูน-ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ, เส้นทางที่ 2 อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ และเส้นทางที่ 3 เซ็นทรัลลาดพร้าว-รถไฟฟ้า BTS หมอชิต-ตลาด อ.ต.ก.-ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ-หมอชิต 2 (เป็นวงรอบ).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ