ไฟเขียวฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- นับเป็นข่าวดี บอร์ดวัคซีนชาติไฟเขียวประชาชนวอล์กอินฉีดวัคซีนโควิดทั้งรูปแบบนัดหมาย และเดินเข้ามารับการฉีดทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ต้องลงทะเบียนหมอพร้อมเพื่อติดตามผลข้างเคียง


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมทั้งในที่ประชุมและรูปแบบออนไลน์ โดยบอกว่าคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติได้รับทราบนโยบายของรัฐบาลในการจัดหาและให้บริการวัคซีนโควิด ให้เพียงพอกับคนไทยทุกคนและผู้อาศัยอยู่ในประเทศใน 3 แนวทางคือ การเพิ่มจำนวนวัคซีนจากเป้าเดิมที่กำหนดไว้ 100 ล้านโดส เป็น 150 โดส เร่งทำงานเชิงรุกเพื่อเจรจากับผู้ผลิตหลายรายมากขึ้น พร้อมเพิ่มโอกาสในการได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นและเร็วขึ้น รวมถึงปรับแนวทางการฉีดวัคซีน โดยเร่งปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนจำนวนมากที่สุด เพื่อลดโอกาสรับเชื้อ ลดความรุนแรง และการเสียชีวิต

เพื่อให้การดำเนินการเป็นในทิศทางเดียวกัน จำเป็นต้องลดอุปสรรคการเข้าถึงวัคซีน ทั้งรูปแบบการนัดผ่านหมอพร้อม นำบุคลากรมาฉีดเป็นกลุ่ม และประชาชนเดินเข้ามารับวัคซีน จังหวัดไหนพร้อมสามารถดำเนินการได้ทันที โดยหวังให้ฉีดได้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร โดยการกระจายวัคซีนจะเน้นพื้นที่ระบาดก่อนเพื่อควบคุมโรค และจังหวัดจะกำหนดจุดฉีดวัคซีน พร้อมแบ่งสัดส่วนวัคซีนสำหรับระบบนัดและการเดินเข้ามารับวัคซีน ซึ่งปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม แต่ทุกจุดฉีดวัคซีนต้องดำเนินการตามมาตรฐาน เฝ้าระวังอาการหลังฉีด แต่เน้นย้ำไม่ว่าเข้ามาในรูปแบบใด เมื่อรับวัคซีนแล้วจะมีการบันทึกข้อมูลในหมอพร้อมเพื่อติดตามอาการนัดมารับวัคซีนเข็มที่ 2 และออกใบรับรองการฉีดวัคซีน


ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำว่าการฉีดวัคซีนแบบไม่นัดหมายล่วงหน้า หรือวอล์กอิน จะช่วยลดอุปสรรคของคนที่ไม่เข้าถึงเทคโนโลยี และคนที่ไม่มีประวัติเจ็บป่วยมาก่อน โดยแบ่งสัดส่วนการฉีดแบบวอล์กอินกับการนัดผ่านแอปฯหมอพร้อม และ รพ.นัดหมาย เป็นแบบ 30-50-20 แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเหมาะสม ยกตัวอย่าง มีวัคซีน 1,000 โดส อาจให้นัดผ่านหมอพร้อม ร้อยละ 30, โรงพยาบาลนัดหมาย ร้อยละ 50 และแบบวอล์กอิน ร้อยละ 20

และสำหรับการจองฉีดวัคซีนวันนี้ สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ณ เวลา 20.00 น. มียอดจองทะลุ 2,400,000 ล้านคนแล้ว โดยเป็นการจองฉีดในพื้นที่กรุงเทพฯ 590,060 คน, ต่างจังหวัด 1,817,000 คน อย่างไรก็ตาม หากดูแล้วยังห่างไกลตัวเลขที่ตั้งเป้าไว้ 16 ล้านโดส เพื่อ 16 ล้านคน ที่เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 1 พฤษภาคม และจะเริ่มฉีดวันแรก 7 มิถุนายน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ จากการทำร้ายตัวเอง ไม่พบรอยช้ำที่เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อลำคอ ญาติพอใจ แต่ขอส่งศพผ่ารอบสองที่นิติเวช จุฬาฯ เปรียบเทียบผล ส่วนประเด็นผ้าที่ใช้ผูก เข้าได้กับรอยที่คอที่มีขนาดกว้างกว่าเชือก