กทม.17 มี.ค.-ผู้ประกอบการถนนข้าวสารคึกคักขานรับพร้อมจัดประเพณีสงกรานต์ เปลี่ยนโฉมเป็นถนนสายวัฒนธรรม ปิ๊งไอเดียใช้ว่าวไทยสร้างสีสัน เตรียมอุโมงค์น้ำฆ่าเชื้อ-ประพรมน้ำมนต์ ป้องกันโควิด-19 คาดมีเงินหมุนเวียนสะพัดกว่า 10 ล้านบาทต่อวัน
นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร กล่าวภายหลัง ศบค. ชุดเล็ก มีมติให้จัดกิจกรรมสงกรานต์ ได้แต่ไม่อนุญาตให้มีการสาดน้ำ ว่า ผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ได้ประชุมหารือ มีข้อสรุปว่า ถนนข้าวสารจะจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ปีนี้จะมีรูปแบบแตกต่างออกไปจากทุกปี เดิมเน้นความสนุกสนานบันเทิงเป็นหลัก แต่ในปีนี้ถนนข้าวสารที่เคยกลายเป็นถนนบันเทิงเป็น Walking Street สำหรับนักท่องเที่ยว ปีนี้จะเปลี่ยนโฉมเป็นถนนเส้นวัฒนธรรมแทน
ผู้ประกอบการถนนข้าวสารจะร่วมกันทำหลังคาชั่วคราว คลุมถนนข้าวสารตลอดทั้งเส้น ด้วยธีม “ ว่าว ” นำมาต่อกันตลอดแนวถนนข้าวสาร จะสร้างเจดีย์ทราย บริเวณวงเวียน 13 ห้างด้านข้างวัดบวรนิเวศวิหาร จัดรถบุปผชาติสรงน้ำพระ 8 คัน แห่รอบพระนคร โดยเป็นรถพระพุทธ 1 คัน ตามด้วย รถพระปางประจำวันเกิด 7 คัน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้จะจัดให้มีอุโมงค์น้ำฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ covid-19 ต่อด้วยอุโมงค์น้ำมนต์ เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาประพรมน้ำมนต์ ขับไล่สิ่งอัปมงคลออกจากตัว โดยน้ำมนต์ที่นำมาจะอัญเชิญมาจากวัดในพื้นที่เขตพระนคร กิจกรรมทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 -15 เมษายน เป็นเวลา 3 วัน แต่ขณะเดียวกันในวันที่ 12 เมษายน ในช่วงเช้าจะจัดกิจกรรมตักบาตรทำบุญถนนข้าวสาร
กิจกรรมถนนข้าวสารช่วงสงกรานต์ในปีนี้ต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ถนน ข้าวสาร กลับมาเป็น Walking Street แห่งการท่องเที่ยวอีกครั้ง หลังจากซบเซามานานเกือบ 2 ปี ทำให้ถนนข้าวสารต้องสูญเสียรายได้ ไปกว่า 500 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ในช่วงสงกรานต์ปี 62 ( 3 วัน)ถนนข้าวสารมีเงินสดหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน แต่ปีนี้เชื่อว่า เงินสดหมุนเวียนที่เกิดขึ้นประมาณ 10 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าแผงลอยและรถเข็นที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน มีรายได้เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย