กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – ตำรวจคุมตัวสาวคนสนิทครูมวยเค้นสอบ สารภาพฆ่าปาดคอครูมวยจริง มูลเหตุจูงใจมาจากต้องการขอเลิก เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีครอบครัว แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงคว้ามีดที่อยู่ในรถปาดคอผู้ตาย อ้างทำคนเดียว ก่อนตำรวจแจ้งข้อหา พร้อมคัดค้านการประกันตัว ด้านครอบครัวเศร้ารบศพครูมวยไปบำเพ็ญกุศล
เมื่อวานนี้ภรรยา รวมถึงญาติและลูกศิษย์ ติดต่อเข้าศพนายวิชาญ มะลิทอง หรือแดง อายุ 46 ปี ครูมวย และเป็นเจ้าของค่าย 789 มวยไทยยิม ย่านรามคำแหง 2 ถูกปาดคอเสียชีวิตอยู่ข้างรถเก๋ง บริเวณปากซอยหมู่บ้านเสรี อ่อนนุช 19 เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลในอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ภรรยาของผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุสามีเดินทางออกจากสุพรรณบุรี มากรุงเทพฯ เพื่อมาแจ้งกับลูกค้าและลูกศิษย์ว่าจะปิดค่ายมวยชั่วคราว เพื่อเตรียมอุปสมบทเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตนเองไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากที่ผ่านมาสามีทำงานที่กรุงเทพฯ และเดินทางกลับบ้านช่วงวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น โดนตนเองเลี้ยงลูกอยู่ที่สุพรรณบุรี และสามีไม่เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ส่วนสามีจะไปมีปัญหากับบุคคลใด หรือมีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบรายละเอีย และขณะนี้อยากทราบข้อเท็จจริงเช่นกัน
ส่วนคืบหน้าของคดี หลังศาลอาญาพระโขนงอนุมัติหมายจับนางสาวพลอยไพลิน คุณานุกรกุล อายุ 32 ปี สาวคนสนิท มือฆ่านายวิชาญ โดยตำรวจ สน.ประเวศ ได้ควบคุมตัวนางสาวพลอยไพลินมาเค้นสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเที่ยงวานนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชรินทร์ อิ่มเอม รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ประเวศ ระบุว่า นางสาวพลอยไพลินยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง มูลเหตุจูงใจมาจากการที่ฝ่ายหญิงซึ่งแอบคบหากับผู้ตายมานานกว่า 5 ปี จากการพบกันในยิม ฐานะครูผู้สอนกับลูกศิษย์ และฝ่ายหญิงต้องการขอเลิก เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมีครอบครัว จึงนัดตกลงพูดคุยเคลียร์ปัญหากันภายในรถ แต่ตกลงกันไม่ได้ และผู้ตายพยายามข่มเหง จึงคว้ามีดที่วางอยู่ในรถปาดคอผู้ตายจนเสียชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการ สน.ประเวศ ระบุว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว และยังไม่พบพยานหลักฐานสาวไปถึงบุคคลอื่น รวมถึงแฟนหนุ่มผู้ก่อเหตุ ที่เคยมีปัญหาถึงขั้นแจ้งความกันมาก่อนในประเด็นหึงหวง แต่จะขยายผลว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากับนางสาวพลอยไพลิน ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สังคมให้ความสนใจ.-สำนักข่าวไทย
