เมียนมา 2 ก.พ. – กองทัพเมียนมาดำเนินการปลดรัฐมนตรี 24 คนในรัฐบาลของนางออง ซาน ซูจี หลังจากดำเนินการยึดอำนาจ และบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านในเวลากลางคืน ขณะที่สื่อเผยนางซูจีรู้ตัวใกล้ถูกจับ ทำแถลงการณ์ไว้ล่วงหน้า ปลุกประชาชนไม่ยอมรับรัฐประหาร ให้ออกมาประท้วงตอบโต้
กองทัพเมียนมากวาดล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรครัฐบาลสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี หลังก่อการรัฐประหารยึดอำนาจ โดยปลดรัฐมนตรีว่าการกับรัฐมนตรีช่วย 24 คนออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งใหม่ 11 คนเข้ามาแทนที่ เตรียมเข้าไปดูแลกระทรวงการคลัง สาธารณสุข สารสนเทศ ต่างประเทศ กลาโหม ชายแดน และมหาดไทย นอกจากนี้กองทัพยังบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านในเวลากลางคืน มีผลตั้งแต่เวลา 20.00-6.00น.
ทั้งนี้ การรัฐประหารในเมียนมาเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลใหม่ของพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ด้วยคะแนนเสียงกว่า 83% กำลังจะเปิดสมัยการประชุมสภาครั้งที่ 1 โดยแถลงการณ์ของกองทัพอ้างว่าพบการฉ้อโกงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และรัฐบาลปฏิเสธคำขอของพวกเขาที่ให้เลื่อนการเปิดประชุมไปก่อน จึงยึดอำนาจและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายใต้มาตราที่ 417-418 เป็นเวลา 1 ปี นางซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี และที่ปรึกษาแห่งรัฐ รวมถึงประธานาธิบดีอู วิน มินต์ และแกนนำคนสำคัญของพรรคเอ็นแอลดีหลายคน ถูกกองทัพควบคุมตัว บ้านรับรองของรัฐบาลซึ่งเป็นที่พักของสมาชิกสภานิติบัญญัติในกรุงเนปิดอว์ ถูกกองทัพเข้าปิดล้อม สัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกตัดขาดในช่วงเช้า ก่อนจะกลับมาใช้การได้อีกครั้งในบางพื้นที่เมื่อช่วงก่อนเที่ยง แต่บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังใช้การไม่ได้
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊กพรรคเอ็นแอลดีเผยแพร่แถลงการณ์ของนางซูจี ที่ประณามการทำรัฐประหารของกองทัพว่าเป็นการผลักให้ประเทศถอยหลังกลับไปเป็นระบอบเผด็จการ พร้อมทั้งเรียกร้องประชาชนเมียนมาไม่ให้ยอมรับ และตอบโต้การรัฐประหารด้วยการออกมาประท้วง
รายงานข่าวระบุว่า แถลงการณ์ดังกล่าวเขียนขึ้นก่อนที่จะมีการก่อรัฐประหารในช่วงเช้า เหมือนนางซูจีจะรู้ตัวว่ากำลังจะถูกจับ และมีขึ้นในขณะที่มีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทำให้ชาวเมียนมาหลายคนคลางแคลงใจกับแถลงการณ์ดังกล่าวของนางซูจี เพราะเกรงว่าอาจเป็นแผนการของทหารที่อาจแฮกบัญชีของพรรคเอ็นแอลดี เพื่อให้ผู้สนับสนุนเธอออกไปประท้วง ซึ่งจะเป็นการฝ่าฝืนสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจนำมาสู่การจับกุม หรือการปราบปรามได้ในที่สุด
อย่างไรก็ดี นายวิน เถี่ยน ประธานพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับนี้ ยืนยันว่าแถลงการณ์ที่ออกมาเป็นของนางซูจีจริงๆ .-สำนักข่าวไทย