“ลุงพล-ป้าแต๋น” เข้าเครื่องจับเท็จไขคดีน้องชมพู่

ปทุมธานี 8 ม.ค.- ผ่านมา 7 เดือนแล้ว คดีน้องชมพู่ยังไม่จบ ล่าสุดวันนี้ ตำรวจปทุมธานี เชิญตัว ลุงพล-ป้าแต๋น เข้าเครื่องจับเท็จ หลังก่อนหน้านี้ได้เชิญบุคคลใกล้ชิดน้องชมพู่เข้าเครื่องจับเท็จแล้วเช่นกัน


วันนี้ ตำรวจได้เชิญตัวนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล พร้อมด้วย นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น มาที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าสู่กระบวนการใช้เครื่องจับเท็จ พิสูจน์ความบริสุทธิ์ในคดี “น้องชมพู่” วัย 3 ขวบ ที่หายตัวออกไปจากบ้าน ก่อนเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำบนภูเหล็กไฟ จ.มุกดาหาร โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวลุงพล-ป้าแต๋น ขึ้นรถยนต์กระบะแบบมีหลังคาไฟเบอร์มาจากหอพักแห่งหนึ่งใน อ.คลองหลวง และเข้าทางประตูด้านข้างของสำนักงานศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ทำให้ผู้สื่อข่าวจำนวนมากที่รอติดตามทำข่าวพากันวิ่งกรูเข้าไปเพื่อที่จะสัมภาษณ์และถ่ายรูป แต่เบื้องต้นลุงพลและป้าแต๋นยังไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ซึ่งการเข้าเครื่องจับเท็จนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ซักถามคนละ 3 ชั่วโมง

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 5-7 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับ “น้องชมพู่” มาเข้าสู่กระบวนการเข้าเครื่องจับเท็จแล้ว ทั้งหมด 7 คน มีทั้งพ่อ-แม่-พี่สาวของน้องชมพู่ น้าสาว-น้าเขย และ น.ส.สายฝน


สำหรับคดีน้องชมพู่ ผ่านมาแล้ว 7 เดือน แต่ก็ยังไม่สามารถไขคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของน้องชมพู่ได้ โดยเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมปีที่แล้ว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงความคืบหน้าในคดีนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งนับเป็นคดีแรกที่แถลงหลังรับตำแหน่งได้เพียง 2 วัน โดยสรุปข้อมูลการสอบสวน น้องชมพู่ ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผล 8 ประการ คือ
1.เส้นทางยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่
2.พลังงานไม่เพียงพอ นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและกีฬา กล่าวว่า อาหารมื้อสุดท้าย น้องชมพู่กินไข่เจียว 3 คำ ส้ม 1 ขวด ไม่มีพลังงานเพียงพอ
3.ประสบการณ์ชาวบ้าน เด็กอายุ 3 ขวบ ไม่สามารถปีนป่ายได้ขนาดนั้น
4.จากการหายตัวไปของชาวบ้าน ด้วยระยะทางที่พลัดหลง เป็น 2 เท่า ของน้องชมพู่ ชาวบ้านสามารถหาเจอได้ภายในวันเดียว
5.ผู้ชำนาญการ แพทย์นิติเวช เห็นพ้องกันว่า เด็กอายุ 3 ขวบไม่สามารถเดินขึ้นไปถึงภูหินเหล็กไฟได้
6.สภาพศพ ในวันที่พบศพ สภาพเปลือยกาย ซึ่งพ่อแม่น้องชมพู่ ยืนยันว่าน้องชมพู่ไม่สามารถถอดเสื้อเองได้
7.พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่ตรวจพบเส้นผมน้องชมพู่ 36 เส้น ถูกตัดหรือเฉือนด้วยมีด เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลอื่น เนื่องจากน้องชมพู่ไม่สามารถเฉือนเองได้
และ ข้อ 8. นิสัยส่วนตัวของน้องชมพู่ กลัวที่สูง กลัวที่มืด กลัวป่า กลัวสุนัข กลัวสวนยาง ที่ผ่านมาน้องชมพู่ไม่เคยเข้าไปในป่าหลังบ้านเลยสักครั้ง พ่อแม่ไม่เคยพาไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี