กทม.สั่งปิดสถานที่เพิ่มเติม ยกระดับ 3 เขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด

กทม. 1 ม.ค. – กทม.ยกระดับ 3 เขต บางขุนเทียน หนองแขม และบางพลัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด พร้อมสั่งปิดสถานที่เพิ่มเติม ป้องกันโควิด มีผลตั้งแต่ 2 ม.ค.เป็นต้นไป โดยจะยกเลิกประกาศฉบับที่ กทม.ได้ออกไปแล้วทั้งหมด และใช้ประกาศฉบับใหม่แทน


ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้พบการแพร่ระบาดลักษณะกลุ่มก้อนในหลายจังหวัดของภาคตะวันออก ส่วนกรุงเทพมหานครพบมีการติดเชื้อลักษณะกลุ่มก้อนในสถานบริการและสถานที่หลายแห่ง คณะกรรมการจึงได้หารือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่กรุงเทพมหานครได้ประกาศไปแล้ว เพื่อยกระดับความเข้มข้นการควบคุมการแร่พระบาดโรคโควิด-19 โดยจะมีประกาศปิดสถานที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะยกเลิกประกาศฉบับที่กรุงเทพมหานครได้ออกไปแล้วทั้งหมด และใช้ประกาศฉบับใหม่แทน

สำหรับรายละเอียด เช่น สวนน้ำ สวนสนุก สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ ตลาดนัด โต๊ะสนุก บิลเลียด สถานที่เล่นตู้เกม ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่ สถานรับเลี้ยงเด็กและสถานดูแลผู้สูงอายุ ยกเว้นที่มีการรับพักค้างคืนเป็นปกติธุระ สนามมวย โรงเรียนศิลปะการต่อสู้หรือโรงยิม สนามม้า สถานประกอบการหรือกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด สถานที่แข่งขันทุกประเภท สถานที่ที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง ห้องจัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่ลักษณะทำนองเดียวกัน สนามชนโค สนามกัดปลา สนามแข่งขันในลักษณะทำนองเดียวกัน สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน สถานที่เจาะผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันกวดวิชา หรือสถาบันการศึกษา เป็นต้น


ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน สถาบันกวดวิชา และสถาบันการศึกษากำหนดปิดทำการตั้งแต่วันที่ 4-17 ม.ค.64 จากนั้นจะพิจารณาตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อีกครั้ง ในส่วนของมาตรการสำหรับร้านอาหารอนุญาตให้ซื้อและนำกลับ หรือ Take away โดยไม่ให้มีการบริโภคในร้านอาหาร ทั้งนี้ หลังจากหารือกับ ศบค.รัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ กทม.อาจจะมีการประกาศให้เริ่มใช้มาตรการนี้ในวันที่ 4 ม.ค.

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการจำแนกพื้นที่สถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ตามที่ ศบค. กำหนดโดยแบ่งระดับพื้นที่ระบาดออกเป็นระดับสี 4 ประเภท ดังนี้

พื้นที่สีแดง พื้นที่ที่ควบคุมสูงสุด คือ มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากหรือมีผู้ติดเชื้อในหลายพื้นที่ย่อย


พื้นที่สีส้ม พื้นที่ควบคุม คือมีการติดเชื้อหรือมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 10 ราย หรือพื้นที่ติดกับเขตพื้นที่สีแดง

พื้นที่สีเหลือง พื้นที่เฝ้าระวังสูง คือ มีผู้ติดเชื้อ 1-10 ราย และพื้นที่สีเขียว พื้นที่เฝ้าระวัง คือ พื้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อและยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อ

ขณะนี้ คณะกรรมการเห็นชอบให้เขตบางขุนเทียน หนองแขม และบางพลัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อให้ผู้อำนวยการเขตมีอำนาจในการบริหารจัดการได้โดยตรง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย