นายกฯ เสียใจเกิดเหตุรุนแรงในการชุมนุม

เมืองทองธานี 26 พ.ย.-นายกรัฐมนตรี เสียใจเหตุรุนแรงกับผู้ชุมนุมวานนี้ สั่งเจ้าหน้าที่ติดตามสอบสวน เชื่อไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่ ย้ำการชุมนุมยืดเยื้อ ประเทศยิ่งเสียหาย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมของคณะราษฎร 63 ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ วานนี้ ที่เกิดความรุนแรงขึ้น ว่า การชุมนุมหากเป็นไปตามกฎหมาย ตนไม่สามารถไปห้ามอะไรได้ ไม่อยากจะว่าใคร เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบขึ้น ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามต้องเคารพกฎหมาย อย่ากระทำผิดกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเขียนว่าอย่างไรก็อย่าไปกระทำผิดตามนั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ไม่ว่าจะกลุ่มไหนก็ตาม หากทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี เหตุการณ์ที่รุนแรงช่วงท้ายการชุมนุม เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และเป็นสิ่งที่ต้องถามว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ได้ให้เจ้าหน้าติดตามสอบสวน เบื้องต้นจะเห็นว่ามีภาพถ่าย ในการติดตามตัว ถือเป็นข้อดี ในการที่สื่อมวลชนได้บันทึกภาพไว้ ซึ่งเป็นส่วนช่วยสำคัญที่จะพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดกรณีโยนกันไปมา กล่าวโทษอีกกลุ่มว่ากระทำ หรือรัฐบาลกระทำ ซึ่งต้องย้ำว่ารัฐบาลมีหน้าที่เพียงดูแลให้ทุกคนมีความปลอดภัย แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน อย่าให้เหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น การชุมนุมต้องปลอดภัย และตนคิดว่า เจ้าหน้าที่คงไม่ได้ทำ


ต่อข้อถามว่าการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นส่วนช่วยลดความขัดแย้งในขณะนี้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระบวนการนี้เป็นเรื่องของรัฐสภา ที่มีประธานรัฐสภา ดูแลอยู่แล้ว รัฐบาลคงไม่ไปก้าวล่วง เพราะทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร มีส่วนร่วมตามขั้นตอนของสภา และเรื่องของพรรคการเมือง ขออย่านำหลายปัญหามาเกี่ยวโยงกัน เพราะในส่วนของรัฐบาลได้ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เกิดการเริ่มต้นแก้ไขรัฐธรรมก็ถือทำตามหน้าที่แล้ว และตนไม่สามารถไปสั่งการได้

เมื่อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าหากการชุมนุมยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขอฝากคนไทยทั้งประเทศช่วยกัน ตนกังวลกับเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะหากนานไปก็จะยิ่งเสียหายมากขึ้น เศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนไม่ได้ การจราจรก็ได้รับผลกระทบ ต้องถามใครได้ประโยชน์บ้าง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมอาจคิดว่าได้ประโยชน์ แต่อยากให้คิดหาวิธีอื่น ที่เป็นไปอย่างสงบ ไม่เป็นอันตราย ไม่มีการล่วงละเมิด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท

ลูกพีช

ผบ.ตร. ย้ำภาพชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม

ผบ.ตร. ย้ำชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ อ้างเป็นญาติ ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม