กรุงเทพฯ 23 พ.ย.- เลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าร้องทุกข์ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขยายผลจับกุมผู้เช่าโกดัง ซุกซ่อนสารต้องสงสัยเคตามีน 11.5 ตัน ในจังหวัดชลบุรี ส่วนของกลางที่อายัดได้ จะแถลงผลตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งหมดพรุ่งนี้
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. นำพยานหลักฐานในคดีที่มีการเข้าอายัดวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นเคตามีน เข้าร้องทุกข์ต่อกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อขอให้สืบสวนจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการซุกซ่อนและส่งออกวัตถุต้องสงสัย ในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีพลตำรวจตรีพรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้รับมอบเอกสารหลักฐานดังกล่าว
นายวิชัย ชี้แจงว่า ที่มาร้องทุกข์กับตำรวจปราบปรามยาเสพติดในวันนี้ เพื่อให้ตำรวจมีอำนาจสืบสวนจับกุมต่อ หลัง ป.ป.ส. ขยายผลพบผู้ดูแลโกดังเป็นคนไทย 1 คน ซึ่งเช่าโกดังในราคา 70,000 บาท ระบุในเอกสารว่า ไว้เก็บเฟอร์นิเจอร์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเป็นคนเดียวกับที่เดินเอกสารเตรียมส่งออกสินค้าในโกดังไปยังต่างประเทศ ส่วนผู้ที่เป็นเจ้าของโกดัง ให้ข้อมูลว่าไม่สามารถติดต่อชายดังกล่าวได้ หลังวางเงินมัดจำเช่าโกดัง คาดว่าน่าจะไหวตัวไปหาที่กบดาน เนื่องจากปรากฎข่าวว่าทางการไต้หวันตรวจยึดเคตามีน 300 กิโลกรัม ได้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องการตรวจสอบของกลางดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) จะแถลงผลการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยทั้งหมด 406 กระสอบ ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 พร้อมกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน หลังผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะทำให้ทราบว่ามียาเสพติดที่แท้จริงในของกลางที่อายัดหรือไม่ จำนวนเท่าใด
ส่วนเหตุที่ผลการตรวจสอบเบื้องต้นเข้าใจว่าเป็นยาเสพติด เนื่องจากไม่ทราบมาก่อนว่าสารเคมีไตรโซเดียมฟอสเฟต จะส่งผลต่อชุดตรวจสอบมีผลลัพธ์ออกมาเป็นสีม่วงเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าขบวนการค้ายาเสพติดไม่ทราบถึงผลลัพธ์ตรงนี้ แต่มองว่าเคตามีน และสารเคมีดังกล่าวมีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกันมาก
ขณะที่พลตำรวจตรีพรชัย ระบุว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้แล้ว คดีนี้เป็นคดีที่มีความต่อเนื่องจากการจับกุมเคตามีน 300 กิโลกรัม ในไต้หวัน จึงต้องเสนอเรื่องไปยังสำนักงานตำนวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาว่าคณะกรรมการสอบสวน ต้องมีตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเข้าร่วมด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปสืบสวนหาแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องสงสัยในแถบภาคเหนือแล้ว แต่ยังไม่พบตัว ส่วนขบวนการค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับเคตามีน ยืนยันว่าตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีข้อมูลเฝ้าสังเกตการณ์ขบวนการกลุ่มนี้อยู่แล้ว 2-3 กลุ่ม ที่ผ่านมาพบว่เคตามีนไม่ใช่ยาเสพติดที่ใช้ในประเทศไทยเป็นหลัก แต่จะใช้ไทยเป็นทางผ่านในการส่งต่อไปยังต่างประเทศ .-สำนักข่าวไทย