คลังเผยจีดีพีไตรมาส 3 ดีเกินคาด

กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – รมว.คลัง ยอมรับจีดีพีไตรมาส 3 ของสภาพัฒน์ ดีเกินคาด พร้อมขยายคนละครึ่งเฟส 3 เพื่อหนุนกำลังซื้อดันเศรษฐกิจฐานราก เชื่อมั่นปี 64 ขยายตัวเป็นบวก


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ติดลบร้อยละ 6.4 และทั้งปีหดตัวร้อยละ 6 นับว่าดีเกินคาด เพราะไทยได้รับผลกระทบจากโควิดหลายภาคส่วน แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ค่อนข้างดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทางสภาพัฒน์จึงได้ปรับประมาณการจีดีพีของปี 2563 ดีขึ้นกว่าคาดการณ์เดิม สะท้อนภาพเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และกระทรวงการคลังมั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 2564 ขยายตัวเป็นบวกอย่างแน่นอน

นายอาคม กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจโดยรวม เพื่อศึกษาช่องทางให้รัฐบาลและกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณปี 2563 และมอบให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ศึกษาความเป็นไปได้ หากจะต้องชำระเงินกู้ต่างประเทศในช่วงเงินบาทแข็งค่าเทียบกับค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเพิ่มว่าคุ้มค่าหรือไม่ และประเมินอีกหลายปัจจัยซึ่งกำลังดีขึ้น ส่วนกรณีเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง นักลงทุนจึงได้นำเงินดอลลาร์สหรัฐเข้ามาหาผลตอบแทนในไทยมากขึ้นต่อเนื่อง กระทรวงการคลังได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตลอดเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหา และลดปัญหาการเก็งกำไรค่าเงินบาทให้มากที่สุด


สำหรับการกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ยังอยู่ในกรอบของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1  ล้านล้านบาท เพื่อกระจายแห่งเงินกู้เงินจากต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันภาคเอกชนมีความต้องการเงินกู้จากแหล่งเงินภายในประเทศ หากรัฐบาลเน้นกู้เงินภายในประเทศอย่างเดียวจะทำให้ดอกเบี้ยและต้นทุนกู้เงินของเอกชนสูงขึ้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการคนละครึ่ง ยอมรับว่าประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ ทั้งประชาชนผู้ลงทะเบียน และร้านค้ารายย่อย เข้าร่วมโครงการจำนวนมาก กระทรวงการคลังจึงรายงานให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาขยายมาตรการเฟส 2 หากสร้างประโยชน์ต่อประเทศ กระทรวงการคลังพร้อมเสนอมาตรการเฟส 3 เพิ่มเติม เพื่อให้เม็ดเงินกระจายสู่เศรษฐกิจฐานราก

ทั้งนี้ ยอมรับว่าโควิดทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไป ส่งผลต่อการเก็บรายได้ของรัฐบาลไม่ตรงตามเป้าหมาย จึงหารือกับหน่วยงานจัดเก็บภาษีหาทางเพิ่มศักยภาพการหารายได้ เพื่อขยายฐานภาษีให้ครอบคลุม เช่น การเพิ่มขีดการแข่งขัน การอำนวยความสะดวก การลดภาระต้นทุนให้กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต วงการแพทย์และสาธารณสุข และอุตสาหกรรมการบริการสุขภาพ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก