กรุงเทพฯ 29 ต.ค.-คณะจุฬาฯ จัดงาน รัฐร้าวเราไม่ลืม “รัฐและความรุนแรง ความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน” ที่สกายวอล์ก หน้าห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง โดยกลุ่มผู้จัดขออนุญาตจัดการชุมนุม ตั้งแต่เวลา 17.30-20.30 น.
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ มีแกนนำแนวร่วมที่อยู่ในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา อาทิ นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues ที่จะนำเสนอถึงเหตุการณ์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงจับกุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563, นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์การสลายการชุมนุมพฤษภา 2553 ที่จะมาเล่าถึงประสบการณ์การสลายการชุมนุมในปี 2553 และนายอับดุลเลาะ สิเดะ สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย ที่จะมาพูดถึงการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งนายณัชปกร นามเมือง จากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ ที่จะพูดถึงการยุติความรุนแรงของรัฐด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุม ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการนำริบบิ้นขาวมาปิดปาก และผูกที่ข้อมือ ไขว้หลัง เพื่อสื่อว่า ในวันที่ 16 ตุลาคม มีสื่อมวลชนที่ถูกจับกุมเช่นเดียวกับผู้ชุมนุม รวมถึงเมื่อเวลา 18.00 น. กลุ่มมวลชน ยังแสดงออกด้วยการนั่งเคารพธงชาติด้วย
ขณะที่ แอมมี่ ย้ำจุดยืนทั้งในเฟซบุ๊กและอินสตราแกรม ว่าเสียงดนตรีถูกปิด เช่นเดียวกับเสียงของประชาชนที่กําลังถูกปิด จึงสนับสนุนให้ประชาชนมีอิสระในการส่งเสียง พร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการพูดและแสดงออกทางความคิดอย่างเท่าเทียม โดยไม่ถูกแทรกแซงจากอํานาจรัฐ ตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน 2.ขอให้ปลดปล่อยประชาชนที่ถูกควบคุมตัว และ 3.รัฐต้องคืนอิสรภาพในการแสดงออกให้แก่สื่อมวลชน ไม่ใช้อํานาจตั้งข้อจํากัด หรือปิดกั้นการนําเสนอข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชน ซึ่งประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงเส้นทาง กรณีมีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุม คือ ถนนพระราม 1 ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่า ถึงแยกเจริญผล และถนนพญาไท ตั้งแต่แยกราชเทวี ถึงแยกจุฬา 12
ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล แนะนำใช้เส้นทางเลี่ยงผลกระทบจากแยกปทุมวัน คือ ให้ใช้ ถนนเพชรบุรี ถนนบรรทัดทอง ถนนพระราม 4 ถนนอังรีดูนังต์ ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ ซอยจุฬาฯ 9 และซอยจุฬาฯ 12
ส่วนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส บริเวณแยกปทุมวัน ยังเปิดให้บริการปกติ เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าโดยรอบ ทั้งมาบุญครอง สยามดิสคัฟเวอร์รี่ สยามพารากอน ยังเปิดให้บริการเป็นปกติ แต่นำรั้วมากั้นบริเวณทางเข้า พร้อมติดป้ายประกาศว่า บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการใช้พื้นที่ เว้นแต่ได้รับอนุญาต
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน. ปทุมวัน เริ่มนำรถตำรวจบรรทุก แผงเหล็กกั้นเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น แต่ยังไม่มีการตั้งกองกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน มาประจำการ มีเพียงขบวนรถตำรวจควบคุมฝูงชนที่มุ่งหน้าไปทางถนนสีลม รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า หน่วย CIA ที่ทยอยออกจากย่านสยามไปสีลมเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย