ศาลออกกฎเหล็กรับมือม็อบระหว่างฝากขัง

กทม.14 ต.ค.- ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ คุมเข้ม พร้อมออกกฎเหล็กรับมือกลุ่มผู้สนับสนุนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจแกนนำผู้ชุมนุมกับพวกระหว่างนำตัวมายื่นฝากขัง


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ หลังมีข่าวว่าจะมีการนำตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แกนนำคณะราษฎร 2563 มาส่งฟ้องต่อศาลหลังถูกตำรวจบุกจับขณะจัดการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เย็นวานนี้ (13 ต.ค.)

ล่าสุดมีกำลังตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาล ได้นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณทางขึ้นอาคารศาลอาญา พร้อมติดประกาศข้อกำหนดศาลอาญา ใจความโดยสรุป ห้ามผู้ใดก่อความรำคาญ หรือยุงยง ปลุกปั่น ห้ามใช้เครื่องขยายเสียง ห้ามบันทึกภาพเสียง ลักษณะไลฟ์เผยแพร่ทาง social media โดยให้มีการตรวจสอบคัดกรองบุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกบริเวณศาลอาญาอย่างเข้มงวด


มีรายงานจากชุดสอบสวนว่า กำลังเร่งสอบปากคำผู้ถูกจับกุมทั้งหมดคาดว่าจะเสร็จสิ้นหลังช่วงเที่ยงของวันนี้ (14 ต.ค.) สำหรับแกนนำและผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม 21 คน จะถูกนำตัวส่งห้องคุมขังศาลอาญา 1 คน ศาลแขวงดุสิต 19 คน และศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง 1 คน

สำหรับข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งกับผู้ต้องหาทั้ง 21 คน มี 10 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โทษจำคุกไม่ 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  2. ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6) กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท 4. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 385 ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท 5. พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 114 ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร โทษปรับไม่เกิน 500 บาท 6. พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 19 ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท 7. พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12 ร่วมกันขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท 8. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 9. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ร่วมกันทําให้เสียทรัพย์ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท 10. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งเจ้าพนักงาน โทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนนายจตุภัทร์ หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในฐานะแกนนำอีก 2 ข้อหา  คือ  ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 วรรคท้าย ซึ่งระบุว่าเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน ตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต


 มีรายงานรายชื่อผู้ถูกจับกุมทั้ง 21 คน 1.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา อายุ 29 ปี 2.นายวชิรวิชญ์ ลิมป์ธนวงศ์ อายุ 23 ปี 3.นายปริญญ์ รอดระหงส์ อายุ 23 ปี 4.นายปวริศ แย้มยิ่ง อายุ 24 ปี 5.นายฐิติสรรค์ ญาณวิกร อายุ 27 ปี 6.นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ อายุ 32 ปี  7.นายวันชัย สุธงสา อายุ 23 ปี 8.นางสาววรางคณา แสนอุบล อายุ 21 ปี 9.นายนันทพงศ์ ปานมาศ อายุ 29 ปี 10.นายทวีชัย มีมุ่งธรรม อายุ 20 ปี 11.นายเมยาวัฒน์ บึงมุม อายุ 20 ปี 12.นายธนกฤต สุขสมวงศ์ อายุ 65 ปี 13.นางเพ็ญศรี เจริญเณรรักษา อายุ 57 ปี 14.นางสาวอภิชญา เพิ่มพงษ์พิพัฒน์ อายุ 18 ปี 15.นายมุสิก ผิวอ่อน อายุ 27 ปี 16.นายภักดี ศรีรัตอำไพ อายุ 55 ปี 17.นายนวพล ต้นงาม อายุ 23 ปี 18.นายกิตติภูมิ ทะสา อายุ 20 ปี 19.นายทรงพล สนธิรักษ์ อายุ 21 ปี 20.นายจิรวัฒน์ รูปใหญ่ อายุ 24 ปี  21.เยาวชนอายุ 17 ปี  – .สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง