ฉะเชิงเทรา 12 ต.ค.- มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากเหตุการณ์รถไฟขนส่งสินค้าชนกับรถบัสเพิ่มอีก 1 คน ส่งผลให้ยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้ขึ้นไปอยู่ที่ 19 คน บาดเจ็บ 39 คน
จากเหตุการณ์รถไฟบรรทุกสินค้าชนรถบัสโดยสาร ระหว่างสถานีคลองบางพระ-สถานีเปรง ตำบลบางเตย อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อ 08.05 น.วานนี้ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 คน โดยคนล่าสุดเสียชีวิตเพิ่มเมื่อเวลา 23.40 น. อีก 1 คน บาดเจ็บจำนวนมาก
ล่าสุด นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ติดตามความคืบหน้าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมทั้งพิจารณาหาแนวทางป้องกัน แก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ซึ่งยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจากรายงานของจังหวัดฉะเชิงเทรา ขณะนี้อยู่ที่ 39 คน เสียชีวิต 19 คน โดยผู้เสียชีวิตคนล่าสุด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อเวลา 23.40 น. ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุมาจากคนขับรถบัสโดยสารไม่คุ้นชินเส้นทาง โดยเฉพาะจุดตัดทางรถไฟ รถบัสโดยสารเปิดเพลงเสียงดัง ทำให้คนขับไม่ได้ยินเสียงหวูดเตือนจากรถไฟ จุดเกิดเหตุไม่มีไม้กั้นทางรถไฟ ประกอบกับมีลักษณะเป็นทางลาดชัน ภายในรถบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าปกติ ทำให้เร่งเครื่องขึ้นเนินช้ากว่าปกติ และรถไฟวิ่งมาด้วยความเร็ว จึงไม่สามารถหยุดรถในเวลากระชั้นชิดได้
ส่วนที่โรงพยาบาลพุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นางจันทรรัตน์ ไตรติลานันท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิงเทราเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบรายชื่อ ซึ่งหลังผู้ป่วยเดินทางกลับบ้านแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ พม.เดินทางเข้าไปช่วยเหลือที่บ้านพัก โดยผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลพุทธโสธร ขณะนี้จำนวน 10 คน โดยมีผู้บาดเจ็บที่อาการสาหัสรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU 3 คน และมีภาพน่าเวทนา เมื่อคุณปู่เวช ภูครองผา ซึ่งเป็นปู่ของ ด.ญ.พีรดา ภูครองผา หรือน้องมิ้งค์ อายุ 5 ขวบ เดินทางมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ มาเฝ้าดูอาการของนายจักรพงษ์ ภูครองผา อายุ 27 ปี ที่ขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ภายในห้อง ICU ของโรงพยาบาลพุทธโสธร ขณะที่แม่ของน้องมิ้งค์ คือ น.ส.เมลดา ภูครองผา เสียชีวิตในพื้นที่เกิดเหตุ
คุณปู่เวช เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวได้รีบเดินทางมาจังหวัดฉะเชิงเทรา บอกหลานสาวว่า พ่อไม่สบาย มาเยี่ยมดูอาการ แต่น้องมิงค์ เด็กหญิง 5 ขวบถามถึงแม่ คุณปู่ไม่กล้าบอกหลานสาว ซึ่งตอนนี้คงต้องรอดูอาการลูกชาย หากออกจากห้อง ICU ได้แล้ว ก็จะติดต่อโรงพยาบาลที่จังหวัดกาฬสินธุ์ส่งตัวลูกชายกลับไปรักษาต่อ ส่วนน้องมิงค์ก็คงต้องอยู่โรงพยาบาลที่ฉะเชิงเทรากับคุณปู่ เพื่อเฝ้าดูอาการคุณพ่อ เพราะไม่มีคนดูแลน้องมิงค์.-สำนักข่าวไทย