กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โชว์ผลงานใหญ่ในการทำงานวันสุดท้าย ก่อนเกษียณอายุราชการ ปิดคดีชิงทองน้ำหนักกว่า 200 บาท จับผู้ต้องหารวม 3 คน ขณะเตรียมหนีไปกบดานประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมยึดของกลางคืนได้จำนวนหนึ่ง
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/09/205.jpg)
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำคณะแถลงปิดคดีชิงทองคำรูปพรรณ น้ำหนักกว่า 200 บาท จากห้างโลตัส ลาดพร้าววังหิน หลังตำรวจตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ โดยจับนายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ที่จังหวัดเลย พร้อมสร้อยคำทองคำ 1 เส้น และนางจันดา หรือ น้อย จันทร์โศก ภรรยาชาวลาว ได้ที่จังหวัดหนองคาย พร้อมสร้อยคอทองคำ 3 เส้น จากนั้นขยายผลตามจับนายสุริยันต์ หรือ มอส นิลบรรพต ที่จังหวัดนครปฐม พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 22 เส้น ก่อนตำรวจตามยึดอาวุธปืน รถจักรยานยนต์ พัดลมตั้งโต๊ะดัดแปลงเป็นที่ซุกซ่อนปืนและสร้อยทองของกลาง โทรศัพท์มือถือ วิกผม และเสื้อผ้าวันเกิดเหตุ
การจับกุมครั้งนี้ ตำรวจไล่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ห้างที่เกิดเหตุ ตามเส้นทางหลบหนี จุดทิ้งรถจักรยานยนต์ จุดเปลี่ยนเสื้อผ้า และขณะไปที่สถานีขนส่งหมอชิต จากแผนประทุษกรรม พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทำงานเป็นทีม และแบ่งหน้าที่กันทำ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีนายชัยมงคล รับว่าเคยก่อเหตุชิงทองในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อปี 2553 ได้ทองไปกว่า 60 บาท ก่อนถูกจำคุกและพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2562 ซึ่งในปีเดียวกันได้ก่อเหตุอีกครั้งที่จังหวัดขอนแก่น ได้ทองไปน้ำหนักกว่า 400 บาท จากนั้นหลบหนีไปที่ สปป ลาว ซึ่งจากนี้ตำรวจจะขยายผลถึงทองคำของกลางที่เหลือต่อไป
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/09/204-2.jpg)
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการทำงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่แผนประทุษกรรมของผู้กระทำผิด มีรูปแบบเดิม ๆ แต่บางอย่างอาจเปลี่ยนไป แต่มั่นใจว่าตำรวจมีความสามารถมากกว่า แต่อาจไม่ทันผู้ก่อเหตุที่ชิงลงมือก่อน จากนี้จะต้องเน้นเรื่องการป้องกันเหตุ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนด้วย เช่น คดีนี้ที่พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะเลือกร้านทองที่สามารถเข้าถึงเคาน์เตอร์ได้ง่าย ที่ผ่านมาตำรวจพยายามประสานให้เจ้าของร้านทองติดตั้งลูกกรงหรือแผงกั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการประทุษร้ายต่อทรัพย์มาโดยตลอด.-สำนักข่าวไทย