ศาล รธน.รับคำร้องม็อบปราศรัยล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญ 16 ก.ย.- ศาลรัฐธรรมนูญ รับวินิจฉัย “อานนท์-ไมค์-รุ้ง” ปราศรัย เข้าข่ายเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ล้มล้างการปกครองขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ สั่งชี้แจงภายใน 15 วัน พร้อมให้อัยการสูงสุดส่งหลักฐานเพิ่มน้ำหนัก


ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องของนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 เฉพาะในส่วนที่กล่าวหาการกระทำของ นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ชุมุนมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เข้าข่ายเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถมีคำสั่งให้คณะบุคคลดังกล่าวเลิกการกระทำดังกล่าวได้ ไว้พิจารณาวินิจฉัย

โดยมีคำสั่งให้แจ้งนายณฐพร ผู้ร้องทราบและส่งสำเนาคำร้องให้กับผู้ถูกร้องทั้ง 3 เพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามายังศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง รวมทั้งมีคำสั่งให้อัยการสูงสุดแจ้งผลการดำเนินการและส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่นายณฐพร ยื่นร้องเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ


คดีดังกล่าวนายณฐพร ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวอ้างว่าผู้ถูกร้อง ซึ่งประกอบด้วยคณะบุคคลกลุ่มต่าง ๆ จัดการชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 3,9,10,20, 21,30 สิงหาคม 2563 ซึ่งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสองแล้ว จึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยและมีคำสั่งให้คณะบุคคลเลิกการกระทำดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้อง เอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า แม้นายณฐพร ขอให้ศาลวินิจฉัยการกระทำของคณะบุคคลกลุ่มต่าง ๆ ในการจัดการชุมนุมปราศรัย รวม 6 ครั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หรือไม่ก็ตาม

แต่ข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายณฐพรได้ยื่นต่ออัยการสูงสุด ขอให้พิจารณาเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการชุมนุมปราศรัยของคณะบุคคลในวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งตามคำร้องระบุว่าการชุมนุมปราศรัยในวันดังกล่าวมีผู้กล่าวปราศรัย 3 คน ที่มีการกระทำตามที่นายณฐพร อ้างคือ นายอานนท์ นำภา นายภานุพงศ์ จาดนอก และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคสาม ที่นายณฐพรจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ ส่วนตามคำร้องที่กล่าวอ้างว่ามีการปราศรัยชุมนุมครั้งอื่น ไม่ปรากฏว่านายณฐพรได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ตามมาตรา 49 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งรับเฉพาะการกระทำของ นายอานนท์ นำภา นายภานุพงศ์ จาดนอก และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่ชุมุนมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63

สำหรับการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ชื่อกิจกรรม ธรรมศาสตร์จะไม่ทน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท