ร้อยเอ็ด 7 ก.ย. – พระซิ่งเก๋งพุ่งชนคนงานก่อสร้างถนน เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด หลังก่อเหตุพยายามหลบหนี พลเมืองดีช่วยกันคุมตัวไว้ได้
เหตุการณ์รถยนต์เฉี่ยวชนกัน บริเวณสะพานข้ามลำน้ำชี ก่อนหลบหนีไปชนคนงานก่อสร้างถนน บนถนนสายร้อยเอ็ด-โพนทอง บริเวณทางโค้งบ้านธวัชบุรี ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และรถคันที่ชนเสียหลักลงข้างทางที่กำลังก่อสร้าง ปรากฏว่า คนขับเป็นพระภิกษุสงฆ์ ลงมาจากรถแล้วพยายามหลบหนี เกิดการชกต่อยกับพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยระงับเหตุ และถูกควบคุมตัวไว้ได้
หลังเกิดเหตุชาวบ้านได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบริเวณทางโค้ง อยู่ระหว่างขยายช่องจราจรและทำเกาะกลางถนน พบรถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กข 6540 มหาสารคาม ชนอัดกับเสาไฟฟ้าข้างทาง หน้ารถพังเสียหาย ด้านท้ายมีรอยเฉี่ยวชน พบคนขับที่จับได้เป็นพระสงฆ์ อยู่วัดแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม ชื่อ พระรามฤทธิ์ ติดมา อายุ 39 ปี มีอาการมึนงง พูดวกวน เหมือนคนเมา
ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 คน คือ นางอรพรรณ แก้วอำไพ อายุ 36 ปี เป็นชาว จ.สมุทรปราการ และนายน้อย ชื่นชม อายุ 82 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งพลเมืองดีช่วยนำส่งโรงพยาบาลธวัชบุรี แต่ปรากฏว่า นายน้อย อาการสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นพระรามฤทธิ์ ขับรถยนต์มาด้วยความเร็วสูง ข้ามสะพานลำน้ำชีเข้าเขตธวัชดินแดง ที่กำลังก่อสร้างขยายถนนเป็น 4 เลน เกิดเฉี่ยวชนรถเก๋งคันหนึ่งตรงคอสะพานแล้วไม่ยอมจอด และพยายามขับรถหนี จนถึงทางโค้ง เกิดเสียหลักพุ่งชนคนงานก่อสร้างทั้ง 2 คน และเสียหลักตกถนนไปชนกับเสาไฟฟ้า จากนั้นพระรูปดังกล่าวได้ลงจากรถและพยายามจะวิ่งหนี แต่พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และขับรถตามมา พร้อมคนงานพยายามเข้าจับกุม แต่พระรูปดังกล่าวไม่ยอมและเกิดชกต่อยกัน แต่สู้คนหมู่มากไม่ไหว จึงถูกตะครุบตัวไว้ได้ และโทรแจ้งตำรวจ
พนักงานสอบสวนนำตัวพระรูปดังกล่าวไปทำการสึกจากพระที่วัดเจ้าคณะอำเภอในเขตธวัชบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ธวัชบุรี พร้อมทำการเป่าวัดแอลกอฮอล์และตรวจปัสสาวะ ไม่พบว่ามีการดื่มสุราและเสพยาเสพติด แต่กลับมีอาการคล้ายคนเมา โดยไม่ทราบสาเหตุ และให้การสับสนวกวนไปมา จนจับใจความไม่ได้ และไม่มีท่าทีว่าจะให้รายละเอียดใดๆ ได้ จึงควบคุมตัวไว้สงบสติอารมณ์ในห้องขังรอสอบสวน เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาชนแล้วหนี และขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นและของราชการเสียหาย บาดเจ็บและถึงแก่ความตาย. – สำนักข่าวไทย