“ณัฏฐพล” #นัดใหม่ในกระทรวง

กทม. 20ส.ค.-“ณัฏฐพล” รมว.ศึกษาฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวนัดกลุ่มนักเรียน ร่วมหารืออีกครั้ง ภายในกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่างและข้อเสนอแนะในการปฏิรูปการศึกษา พร้อมติดแฮชแท็ก #นัดใหม่ในกระทรวง


นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจเรื่องการชุมชุมตามหลักประชาธิปไตย การเรียกร้องสิทธิหรือแม้แต่การใช้สัญลักษณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออก เพราะการแก้ปัญหาให้ถูกทาง การหาคำตอบให้ตรงข้อเรียกร้อง การเผชิญหน้าโดยไม่มีการแทรกแซง สามารถเปลี่ยนจากข้อกังขาเป็นหนทางสู่การแก้ปัญหาได้ตรงจุด สำหรับผมยินดีอย่างมากที่ได้พบกลุ่มน้องนักเรียนโดยตรงด้วยตัวเอง เพื่อสอบถามและรับฟังข้อเสนอจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “นักเรียนเลว” ที่เชิญชวนให้เหล่าเพื่อนนักเรียนเดินทางมาเป่านกหวีดขับไล่ผมให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 1 วันหลังแถลงปฏิรูปการศึกษาไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ถึงแม้จะได้พูดคุยและรับฟังจากน้องๆ นักเรียนแค่บางส่วน(เสียดายที่ไม่ได้รับโอกาสให้พูดคุยบนเวทีได้) แต่นับเป็นเรื่องน่ายินดีและขอชื่นชมที่เรามีอนาคตของประเทศที่สนใจและตั้งคำถามกับอนาคตของพวกเขาเอง ทั้งปัญหาทางเพศ การถูกคุกคามในโรงเรียน หลักสูตรการเรียนการสอน งบประมาณการศึกษาที่ถูกตัด การแต่งเครื่องแบบและทรงผม ซึ่งประเด็นส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา หรืออีกนัยหนึ่งคือการตั้งคำถามกับสิทธิและเสรีภาพทั้งความคิดและการกระทำ ภายใต้หน้าที่และบทบาทความเป็นนักเรียนในสถานศึกษานั้นมีมากแค่ไหน


มาครับ…มาหาทางออก มาพลิกความเห็นที่แตกต่าง เป็นการเผชิญหน้าเพื่อเปิดใจรับฟัง หาแนวทางพร้อมแก้ปัญหา โดยไม่ถูกแทรกแซง ผมรับ ปากน้องๆ ไว้ว่าทางกระทรวงศึกษาธิการพร้อมเปิดเวทีให้แสดงความคิด เห็น โดยไม่มีการคุกคาม น่าจะช่วยลดความกดดันให้ทั้งครู ผู้บริหารสถานศึกษาและนักเรียน ได้แสดงออกมากกว่าผ่านกระบวนการของการชุมนุม แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้กรอบและขอบเขตของหลักการตามหลักประชาธิปไตยเหมือนที่น้องๆ เรียกร้องอยู่นั่นเอง

ปลดล็อก ปรับเปลี่ยนและเปิดกว้างเป็นหัวใจหลักของการปฏิรูปการศึกษาที่ตอนนี้เราทำกันอยู่ เกือบทั้งหมดของสิ่งที่น้องๆเรียกร้องอยู่ในขั้นตอนการปลดล็อกและปรับเปลี่ยน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปการศึกษาไทยจะเดินไปถูกทิศถูกทางมากขึ้นอย่างแน่นอน ผมไม่ได้เรียกร้องให้ทุกคนใจเย็น แต่อยากขอให้รับฟังว่าการปฏิรูปการศึกษาที่เราเตรียมไว้นั้น มันคือคำตอบของเด็กไทยในวันนี้ใช่หรือไม่

ผมขอชวนน้องๆนักเรียนมาพูดคุยกันอีกทีนะครับ คราวนี้จะชวนมานั่งในกระทรวงดีกว่า จริงๆ เมื่อวานผมก็ให้เจ้าหน้าที่กระทรวงช่วยเตรียมเก้าอี้ไว้ที่ลานหน้ากระทรวงนะครับเผื่อได้นั่งคุยกัน แต่น้องๆส่วนใหญ่เลือกอยู่ริมรั้วกระทรวง คราวหน้าเข้ามาคุยกันและจะได้เล่าให้ฟังว่าที่น้องๆ เรียกร้องได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง สิ่งไหนยังไม่ได้ทำ ก็ได้หาแนวทางร่วมกันอย่างมีเหตุมีผล หรือมีข้อเรียกร้อง เสนอแนะเพิ่มเติมก็จะได้มาคุยกัน หาทางออกด้วยกันนะ #นัดใหม่ในกระทรวง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง