ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กทม. 6 พ.ค. – กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น


ความคืบหน้าเหตุการณ์ ชายชาวเมียนมา 2 คน ถูกกลุ่มไทใหญ่ที่เรียกตัวเองว่า แก๊งไทใหญ่ 999 บุกใช้มีดไล่ฟันกลางซอยประชาสงเคราะห์ 45 ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดในร้าน จะเห็นว่า แม้ผู้บาดเจ็บจะวิ่งหนีเข้าไปในร้าน และยกมือไหว้ขอชีวิต แต่คนร้ายยังตามเข้าไปกระหน่ำฟันไม่ยั้งจนเลือดอาบ

ล่าสุดวันนี้ นายตอง ผู้เสียหายชาวเมียนมา พร้อมนางสาวบี พี่สาว เดินทางไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อให้ปากคำ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุขณะตนกับเพื่อน กำลังเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อย่านห้วยขวาง ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาจอดรถขวางหน้า ไม่พูดจาอะไร ใช้อาวุธมีดพยายามไล่ฟันตนกับเพื่อนในทันที ทำให้ตนกับเพื่อนต้องวิ่งแยกย้ายหนีกันไป โดยตนวิ่งมาทางตลาดสดห้วยขวาง ส่วนเพื่อนของตนวิ่งหนีไปยัง ซอยประชาสงเคราะห์ 45 ผู้ก่อเหตุวิ่งตามมา โดยตนถูกฟันเข้าที่ไหล่จนเย็บ 18 เข็ม


นายตอง ยืนยันไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จักแก๊งต่างๆ ที่เป็นคู่อริกัน แต่อาจเป็นเพราะวันนั้นตนสวมเสื้อที่มีลายธงชาติของกะเหรี่ยง ซึ่งสอดคล้องกับการที่ ผู้ก่อเหตุไลฟ์สดใน tiktok ว่า “จะกวาดล้างชาวกะเหรี่ยงให้หมด เพราะรู้สึกโกรธแค้นที่ตนเคยถูกชาวกะเหรี่ยงทำร้ายมาก่อน”

ด้านนางสาวบี พี่สาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะตอนนี้ยังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ และรู้สึกแย่ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ กระทำการในลักษณะนี้ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติเจ้าของประเทศ และทำให้ภาพลักษณ์ของชาวเมียนมาดูแย่ลงไปอีกด้วย ทั้งที่ตนและน้องชายก็เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงอยากให้ตำรวจรีบจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุไปทำแบบนี้กับใครอีก

ด้านพันตำรวจเอกประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้คาบเกี่ยวพื้นที่ สน.ห้วยขวาง และ สน.สุทธิสาร แต่เนื่องจาก ผู้เสียหายไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ก่อน จึงให้พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดีทั้งหมด ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ส่งมอบคำให้การของผู้เสียหายรายแรก คือนายตองที่ถูกฟันในฝั่ง สน.ห้วยขวาง ให้กับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ทั้งสองสถานีตำรวจก็จะประสานความร่วมมือแก่กันและกันในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี


ส่วนประเด็นที่อ้างว่าชาวเมียนมาตั้งกลุ่มแก๊งต่าง ๆ แล้วรวมตัวตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ห้วยขวางนั้น เนื่องจากพื้นที่ห้วยขวางมีลานสาธารณะที่สำคัญจำนวนหลายแห่ง ทั้งสนามกีฬาห้วยขวาง ตลาดห้วยขวาง และหอนาฬิกาห้วยขวาง ซึ่งประชาชนไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างด้าวมักจะมารวมตัวนัดพบกันเป็นปกติ โดยเฉพาะในช่วงเย็น

พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจจะมีทะเลาะกระทบกระทั่งกัน โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างด้าวด้วยกัน ซึ่งตอบไม่ได้ว่าเป็นลักษณะการทะเลาะวิวาทแบบกลุ่มแก๊งกันหรือไม่ ส่วนประเด็นกลุ่มแก๊งไทยใหญ่ 999 และแก๊ง RCD นั้น ตำรวจก็เพิ่งทราบตามที่ปรากฏในสื่อต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบ หากพบเป็นการลักษณะรวมแก๊งในเชิงอั้งยี่ซ่องโจร ก่อเหตุอาชญากรรม หรือเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินคดีทั้งหมดโดยไม่ละเว้น

หลังจากนี้จะเพิ่มมาตรการกวดขัน พร้อมประสานสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมคนในสัญชาติของตนเอง รวมทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อช่วยกันตรวจสอบชาวต่างด้าวที่มีลักษณะรวมกลุ่มผิดกฎหมายเช่นนี้ หากพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้ใช้โซเชียลในเชิงข่มขู่หรือผิดกฎหมาย จะประสานให้ทางตำรวจไซเบอร์ดำเนินคดี

ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ลงพื้นที่บริเวณซอยประชาสงเคราะห์ 45 ถนนประชาสงเคราะห์ แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่ผู้เสียหายได้วิ่งหลบหนีมาขอความช่วยเหลือ ได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บอกว่า ในวันเกิดเหตุตัวเองปิดร้านตอน 22.00 น. เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. เขาไล่ทะเลาะกันมาจากตลาดห้วยขวาง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีคนหนีมาขอความช่วยเหลือบริเวณนี้ ปกติแถวนี้ไม่ค่อยเกิดเหตุทะเลาะกัน ส่วนใหญ่เหตุจะเกิดย่านตลาดห้วยขวาง หอนาฬิกา สนามกีฬา บางคนไม่อยากให้ข้อมูลเพราะกลัว ขนาดคนชาติเดียวกันยังตามไล่ล่า ถ้าหากว่ารู้ให้ข้อมูลก็กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะเราอยู่ในพื้นที่ ส่วนแรงงานที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายไม่พบว่าจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ข้อมูลจากชาวบ้านที่อยู่ในละแวกหอนาฬิกาสวนสมเด็จย่า 90 หรือหอนาฬิกาห้วยขวาง ให้ข้อมูลว่า กลุ่มแก๊งเหล่านี้มักจะชอบมารวมตัวกันที่สวนหอนาฬิกาในช่วงเย็นเป็นประจำทุกวัน ส่วนใหญ่จะมาตั้งวง เพื่อสูบกัญชาและดื่มน้ำกระท่อม รวมถึงนำอาวุธมาเก็บสะสมซ่อนเอาไว้ตามพุ่มหญ้าของสวน แต่หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวก็ไม่พบเห็นกลุ่มแก๊งมารวมตัวแต่อย่างใด รวมถึงจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยตรวจตรากวดขันไม่ให้มีการรวมกลุ่มกัน

ด้านเจ้าหน้าที่ที่เคยทำงานด้านชุมชนสัมพันธ์ในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ไม่พบว่ามีการรวมตัวตั้งเป็นกลุ่มแก๊งขนาดใหญ่ โดยเฉพาะการรวมกลุ่มของไทใหญ่ แต่พบว่าจะมีการรวมกลุ่มกันของวัยรุ่นทั้งคนไทยและต่างชาติที่อาจมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้าง เช่นล่าสุด ตำรวจในพื้นที่สน.ดินแดง จับกุมหัวโจกแก๊งต่างด้าวกร่างใช้อาวุธไล่ฟันทำร้ายเพื่อนร่วมชาติเจ็บสาหัสโดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นคนไทยที่ยังเป็นเยาวชนอยู่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]