นายกฯ ขออย่าเพิ่งเสียกำลังใจ GDP ปี 67 รั้งท้ายอาเซียน

กรุงเทพฯ 2 มี.ค.-นายกฯ ย้ำผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ขออย่าเพิ่งเสียกำลังใจ GDP ปี 67 รั้งท้ายอาเซียน ยันรัฐบาล-เอกชนร่วมมือกัน บอกต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ลั่นทำเต็มที่อยู่ครบเทอมดันการลงทุน ให้ความมั่นใจต่างชาติ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ถึงตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจของไทย หลังสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ปี 2567 ที่เติบโต 2.5% ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า เศรษฐกิจของไทยไม่โต หรือรั้งท้ายกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งหากดู GDP ในไตรมาส 4 ของปี 2567 เติบโตขึ้น 3.2% ซึ่งเกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ การลงทุนของบีโอไอ แต่ยังมีคำถามว่า ทำไม GDP ของไทยโตขึ้นน้อย รั้งท้ายกลุ่มประเทศอาเซียน เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ การเตรียมตัวเรายังไม่ทัน ทั้งที่คนไทยมีศักยภาพ เพียงแต่รอแค่โอกาสและการลงทุนเพิ่มเติม รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ


เรื่องอุตสาหกรรมใหม่ เซมิคอนดักเตอร์ ผลิตรถอีวี การเตรียมคนสำหรับอุตสาหกรรมรถ และการเตรียมคนสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต อย่างมาเลเซีย มีการเตรียมตัวเรื่องการทำเซมิคอนดักเตอร์มานานแล้ว เช่นเดียวกับเวียดนามที่ฝึกคนเขียนซอฟต์แวร์มาระยะหนึ่งแล้ว รัฐบาลลงทุนอย่างจริงจังในการทำสิ่งนี้ และมีภาคเอกชนเข้ามาช่วยองค์ความรู้ในการผลักดันคนให้พร้อมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

แต่ไทยยังไม่ได้มีเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราต้องพัฒนาอัพสกิล-รีสกิล ของแรงงานไทย หากไม่พัฒนาสิ่งเหล่านี้ เราจะตามเขาไม่ทัน เมื่อรัฐลงทุนแล้ว ภาคเอกชนก็ต้องช่วยกัน ทุกฝ่ายต้องดัน GDP ประเทศขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนดัน ต้องให้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายจริงๆ


นายกรัฐมนตรี ยังอยากให้ SME ที่มีอยู่ 75% ของประเทศลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชน เพื่อจะได้นำเม็ดเงินนี้ไปพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองที่มีอยู่แล้ว ถ้าปล่อยสินเชื่อได้ช่วยดัน GDP

หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ตนเป็นนายกรัฐมนตรีได้ 5-6 เดือน ได้ดูเรื่องของงบประมาณ ซึ่งค่อนข้างมีจำกัดมาก ส่วนใหญ่ที่ได้มาจะนำไปจ่ายงบประจำ ตนเองพยายามจะรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้ใช้จ่ายงบประจำเพิ่มมากขึ้น จึงอยากให้นำเงินเหล่านี้มาลงทุนในภาครัฐ ขออย่าเพิ่งเสียกำลังใจเรื่อง GDP ปี 67 ที่โต 2.5% เพราะโตขึ้นจาก GDP ปี 66 ที่ 2.0% ซึ่งจะเห็นว่าขยับขึ้น และภายใต้การทำงานของรัฐบาลชุดนี้พร้อมเอกชนที่ให้ความร่วมมือกัน GDP มีโอกาสโตขึ้นสูงมาก ขออย่าเพิ่งท้อใจ เพราะนี่แค่ต้นปี

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลมุ่งหาเม็ดเงินใหม่เข้ามาลงทุน แล้วปีนี้มี Google, TikTok, NVIDIA จะมาลงทุนในไทย โดยบีโอไอ รายงานว่า ในปี 2567 มีต่างชาติลงทุนในไทยกว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งต้องชื่นชมบีโอไอที่ประสานงานกับรัฐมาโดยตลอด และเวลาที่ไปต่างประเทศ เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะคุยกับใคร จะดึงใครบ้างเข้ามาลงทุน อย่างช่วงที่ตนเดินทางไปประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ได้รับคำถามว่า หากเขาลงทุนจะมีความมั่นคงอย่างไร ตนก็ได้ให้ความมั่นใจว่า


“เราจะทำเรื่องนี้เต็มที่ ผลักดันเรื่องการลงทุน ดิฉันต้องอยู่ครบเทอม เพื่อผลักดันการลงทุน นี่คือสิ่งที่เราบอกกับต่างชาติมั่นใจว่า เราไม่ได้จู่ๆ จะเปลี่ยนอีกนะ เอะอะจะยุบสภากัน เกมการเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน ประเทศชาติ อันนี้เป็นสิ่งที่เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ หนักแน่นเข้าไว้ในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เราหนึ่งคนเล่นเกมการเมือง ทุกอย่างที่คุยกันไว้ ไม่มีใครเขาเชื่อแล้วจบทุกอย่าง การลงทุนทุกอย่างจะผลักดันได้ยาก แต่เราก็บอกข้อดีของไทยหลายเรื่อง คือ การมาตั้งโรงงานที่เรา การใช้พื้นที่ในประเทศไทย ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าประเทศอื่น” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้มีอุตสาหกรรมที่จะมาลงทุนในไทย ทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัล เซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนรถอีวี โรงงานที่มีอยู่แล้ว ของญี่ปุ่นและจีน เริ่มที่จะปรับจากรถยนต์สันดาป เป็นรถไฮบริด และอีวี รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด

เมื่อถามว่า ลงทุนแล้วประเทศไทยได้อะไร คำตอบคือเกิดการจ้างงาน ค่าแรงก็แพงขึ้น การรับรายได้ก็จะสูงมากขึ้น นี่คือการสนับสนุนภาพใหญ่ภาพรวมทั้งหมด เวลาที่บริษัทใหญ่จากต่างประเทศมาลงทุน ไม่ได้แค่เฉพาะเรื่องของจีดีพี แต่จะลงไปถึงรากลึกคนเล็กๆ ได้ทั้งระบบจริง ดังนั้นรัฐบาลได้มีการพูดคุยให้อุตสาหกรรมเหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะของแรงงานด้วย พร้อมย้ำว่า ตนเองเน้นเรื่องการให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อให้เด็กได้ไปเรียนรู้เพิ่มโอกาสทางการศึกษา ทุนโอดอส (ODOS) เพื่อไปเรียนรู้อุตสาหกรรมอนาคต เทคโนโลยี และดึงให้ทุกคนกลับมาในระบบการศึกษา ไม่มีใครหลุดออกนอกระบบการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง เพิ่มโอกาสในการหารายได้ เพิ่มโอกาสการจ้างงานในอนาคต

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสไปลงพื้นที่ตรวจราชการที่ภาคใต้ ชาวบ้านบอกว่า สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เคยให้งบประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อสร้างสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ จ.พัทลุง ลูกมาแล้ววันนี้ให้งบอีกแน่นอน ซึ่งช่วงนี้นายกฯ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พร้อมระบุว่า ชาวบ้านน่ารักมาก กดดันกันเลย ความจริงแล้วทุกจังหวัด ทุกที่ รัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว ดิฉันเองผู้เป็นนายกฯ ไม่เลือกว่าจังหวัดไหนคุณพ่อเคยทำหรือไม่ ไม่เกี่ยวกัน ทุกที่ ทุกจังหวัดคือประเทศไทย ฉะนั้นนายกฯ จะต้องดูแลประเทศไทยให้ดีที่สุด อันนี้คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ไม่มีข้อต่อรอง ขอบอกพี่น้องทุกจังหวัดเต็มที่

“เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น จีดีพีเพิ่มขึ้นแปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตัวเลขเหล่านี้เพื่อให้ประเทศอื่นๆ จะได้ดูด้วยว่า ประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ดิฉันเองอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้มีจีดีพีที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ความจริงคิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนรวยๆ จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ วินวินแน่นอนค่ะ ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ค่ะ ประเทศยังต้องการการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน” นายกฯ กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย