นายกฯ ไม่หวั่นถูกล็อกเป้าซักฟอก เชื่อพรรคร่วมไม่ลอยแพ

ซักฟอกนายกฯ

รัฐสภา 27 ก.พ.- นายกฯ เข้าสภา บอกไม่ได้บังเอิญตรงวันฝ่ายค้านยื่นซักฟอก แต่จิ้มวันตั้งแต่ปีใหม่ บอกไม่เกินคาดหมายหลังเป็นเป้าถูกอภิปรายคนเดียว ไม่กังวลกล่าวหาเป็นนั่งร้าน “ทักษิณ” มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมแจงทุกเรื่องแต่ไม่รู้จะถูกใจคำตอบหรือไม่ เชื่อพรรคร่วมไม่ลอยแพ ส่งข้อความขอความช่วยเหลือแล้ว ชี้ มือใหม่ตอบคนเดียวไม่ไหวเดี๋ยวคอแห้ง ต้องมีองครักษ์ช่วย


เมื่อเวลา 10.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ารัฐสภา โดยได้ยกเลิกภารกิจเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงเช้า เนื่องจาก ไม่มีวาระพิจารณาที่เป็นประเด็นสำคัญ โดยพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สามารถทำหน้าที่ประธานการประชุมได้เลย

โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเข้าสภาวันนี้ตรงกับวันที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตนทราบข่าววานนี้ (26 ก.พ.) ว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมีการวางแผนจะเข้าสภาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว ซึ่งได้จิ้มวันไว้แล้วว่าจะเข้าสภาวันไหน และบังเอิญตรงกับวันที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกทั้งต้องดูเรื่องภารกิจด้วย ไม่เช่นนั้นจะหาวันเข้าสภาไม่ได้ ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดี


ส่วนเกินความคาดหมายหรือไม่ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าที่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่เกินความคาดหมาย เป็นสิทธิของฝ่ายค้านอยู่แล้ว ซึ่งได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้วว่าจะออกมารูปแบบนี้ ซึ่งในวันที่ไปรับประทานอาหารร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลก็มีการคุยกันเพราะขณะนั้นมีรายชื่อออกมาเป็น 10 รายชื่อ ขณะที่ญัตติอภิปรายของฝ่ายค้านนั้น ยืนยันว่าสามารถตอบได้ทุกข้อ แต่อะไรที่เกี่ยวต้องกับกระทรวงไหนหรือลงรายละเอียดคงให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยกันตอบ

เมื่อถามว่าเนื้อหาในญัตติของฝ่ายค้านระบุว่านายกรัฐมนตรีเป็นนั่งร้านให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าก็เตรียมตอบในสิ่งที่ถามมาทุกประเด็น และไม่กังวลหากจะมีการพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะพูดอะไรหรือจะถามกระทบกับอะไร ถ้าเราไม่หลักยึดอย่างเช่นกฎหมายก็จะแย่ แต่ถ้าหากมีหลักยึด ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมตอบ

เมื่อถามว่าญัตติของฝ่ายค้านแรงเกินไปหรือไม่ เพราะกล่าวหาว่าไม่มีวุฒิภาวะ ความเป็นผู้นำ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าต้องดูข้อมูลจริงประกอบด้วย ว่าต่างชาติไม่เชื่อมั่นจริงหรือไม่ แต่ก็เข้าใจเพราะพรรคเพื่อไทยก็เคยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชนมา 8-9 ปี ไม่ได้ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นอยากรู้อะไรมาก็ตอบไป


เมื่อถามต่อว่ามั่นใจว่าตอบได้ทุกข้อกล่าวหาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ามั่นใจว่าตอบได้อยู่แล้วแต่ แต่จะชอบคำตอบหรือไม่ตนไม่ทราบ

นายกรัฐมนตรียอมรับว่าจะมีการตั้งองครักษ์ขึ้นมาแน่นอน เพราะทุกคนต้องช่วยกันตอบ ตอบคนเดียวอาจจะคอแห้ง

ส่วนจะต้องมีการมอบหมายรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่มอบหมาย แต่จากที่คุยกันในวงดินเนอร์พรรคร่วมหากเกี่ยวข้องกับกระทรวงใด ตนเชื่อว่าทุกกระทรวงเขาอยากตอบแน่ เพราะเป็นผลงานของเขา แต่ทั้งหมดต้องรอหน้างานเพราะขณะนี้ก็ไม่ทราบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งมีหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้น

เมื่อถามว่าพรรคร่วมจะไม่ปล่อยลอยแพใช้หรือไม่ หลังญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจมีชื่อนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว นายกฯยืนยันว่าไม่ปล่อยลอยแพ และได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากทุกคนแล้ว ว่าเป็นมือใหม่ ยังไม่เคยถูกอภิปรายมาก่อน ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุน ซึ่งถือว่าเป็นกำลังใจ เพราะพรรคร่วมมีโอกาสได้คุยน้อยกว่าพรรคตัวเอง แต่เมื่อได้คุยกันแล้ว ก็ได้รับการสนับสนุน มีความอบอุ่น ความน่ารักจากหัวหน้าพรรคร่วมทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นกำลังใจมากๆ

เมื่อถามว่านายทักษิณเป็นหัวหน้าองครักษ์พิทักษ์นายกฯเองเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีร้อง “โอ๊ย ไม่แล้วค่ะ ” ก่อนระบุว่าถ้านายทักษิณจะเป็นองครักษ์คงไม่ใช่เรื่องที่มาตอบคำถามในสภา แต่จะตอบคำถามเมื่อเราถามหรือขอคำแนะนำ อย่างเช่น ถ้าเป็นพ่อจะทำอย่างไร จะเดินอย่างไร เป็นการขอคำปรึกษา ซึ่งแบบนั้นให้อยู่แล้ว 100%

เมื่อถามว่าหลังฝ่ายค้านยื่นญัตตินายทักษิณให้กำลังใจอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่านายทักษิณโทรมาตั้งแต่เช้า ตนยังไม่ได้รับ และโทรกลับไปนายทักษิณไม่รับสาย วันนี้ยังไม่ได้คุยกัน จึงไม่รู้จะตอบอย่างไร ส่วนจะต้องขอคำแนะนำหรือไม่เดี๋ยวจะรอดูแต่ขอกำลังใจแน่นอน

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามว่าจะไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายทักษิณหรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าจะมีการนัดพบกันที่บ้านพิษณุโลกในช่วงเที่ยงวันนี้(27 ก.พ.) .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย