กทม.ฝุ่นพุ่งอีกครั้ง สีส้ม 7 เขต-มีแนวโน้มเพิ่มถึง 3 ก.พ.

ค่าฝุ่นกทม.

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นเช้าวันนี้ (29 ม.ค.) ในพื้นที่ กทม. กลับมามีส้มอีกครั้งใน 7 เขต หลังดีขึ้นเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่วนทั่วประเทศพบเกินมาตรฐาน 15 จังหวัด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก


ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เช้าวันนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 32.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 7 เขต ส่วนที่เหลืออยู่ในระดับสีเหลือง สูงสุดอยู่ที่เขตหนองแขม 43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือ เขตภาษีเจริญ 39.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เขตสวนหลวง 38.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เขตพระโขนง 38.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และเขตคลองสามวา 38.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงวันที่ 29 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “อ่อน” ประกอบกับมีการเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว


ฝุ่นทั่วไทยเกินมาตรฐาน 15 จังหวัด-เฝ้าระวังต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์ทั่วประเทศ ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ของกรมควบคุมมลพิษ รายงานคุณภาพอากาศเช้าวันนี้ ภาพรวมปริมาณ PM 2.5 พบเกินค่ามาตรฐานใน 15 จังหวัด กระจายอยู่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ระยอง และ จ.ตราด ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี

ด้านเว็บไซต์ IQAir รายงานจังหวัดที่คุณภาพแย่ที่สุดของไทยเมื่อเวลา 11.00 น. คือ อุตรดิตถ์ ค่า AQI อยู่ที่ 154 ระดับสีแดง รองลงมา จ.ลำปาง 146 และ จ.สมุทรสาคร 133 อยู่ในระดับสีส้ม

ส่วนผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกภาคจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ยกเว้นภาคใต้ ที่ดีอย่างต่อเนื่อง


“อนุทิน” ระดมถกแก้ปัญหาฝุ่น-แนะปรับเกณฑ์เยียวยา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เรื่องติดตามปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยมีหน่วยงานต่างๆ และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด เข้าร่วมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงอย่างมาก โดยติดตามสถานการณ์และประชุมหารือกับตนเองตลอดเวลา โดยมูลเหตุของปัญหามาจากการเผา หากทำให้ประชาชนไม่เผาได้ มลพิษจะเกิดขึ้นน้อยมาก ไม่ต้องกังวลว่าเพื่อนบ้านจะทำอย่างไร เราต้องจัดการในบ้านของเราให้เรียบร้อยก่อน โดยต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด และหาทางเลือก เช่น ที่เชียงใหม่ทำ คือให้มีการฝังกลบ หรือแปรสภาพ เศษซังข้าวโพด ซึ่งรัฐต้องสนับสนุนเครื่องจักรเข้าไป เราเจอภัยพิบัติมาโดยตลอด ต้นปีภาคเหนือไตรมาส 3 ภาคกลางไตรมาส 4 ภาคใต้ ใช้เงินเกือบ 20,000 ล้านบาท เป็นค่าชดเชยทดแทนความเดือดร้อน หลังคาเรือนละ 9,000 บาท เหตุการณ์นี้ก็ใกล้เคียงกัน น้ำลดหรือเพิ่มเกิน 3 วัน ชาวบ้านได้เงิน แต่กรณีหมอกควันยังไม่เกิด จะเอาเงินไปให้ชาวบ้านก่อนไม่ได้ มันต้องเกิดการเผา เกิดมลพิษควันดำก่อน ค่ามลพิษต้องเกิน 150 ไมโครกรัม จึงจะนำเงินออกไปได้ หากไปถึงจุดนั้นประเทศไทยคงมืดมิดไปทั้งประเทศ จึงขอแต่ละจังหวัดให้ช่วยกันคิด ในการผลักดันให้มีงบช่วยเหลือชาวบ้านก่อน เพื่อที่จะให้หยุดเผา พร้อมขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกัน ส่วนที่บังคับใช้กฎหมายก็ต้องทำอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงปม “ปราสาทตาควาย” ยึดไม่ได้ 100% เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิง

31 ก.ค.- ทบ.แจงปมทหารไทยยึด “ปราสาทตาควาย” ไม่ได้ 100% ไม่ใช่ตัวชี้วัดแพ้ชนะ แต่ได้พื้นที่มากกว่าก่อนปะทะ ลั่นยึดเนิน 350 จุดสูงข่มไม่ได้ เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิงหากเคลื่อนกำลังไปตัวปราสาทฯ ชี้ทีมโฆษก ทบ. ไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลก่อนเจรจาหยุดยิงถึงสถานการณ์หน้างาน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงปราสาทตาควายที่เดียว มีข้อจำกัด หากจะพูดถึงการควบคุมพื้นที่ เราสามารถควบคุมได้ตามแผน ตามเป้าหมายทางการทหารที่ได้วางไว้ โดยพื้นที่ปราสาทตาควาย ถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก่อนถึงเวลาหยุดยิง ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะ จะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควายจะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหาร ไม่ใช่ตัวปราสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องของการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่ ห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือ เนิน 350 ซึ่งอาจจะมองว่าอยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ ทั้งนี้ เนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ทอ.โต้กัมพูชาอ้างขุดพบ MK-84 ชี้ระเบิดเก่าขึ้นสนิม ยันไม่ใช่ของไทย

31 ก.ค.- โฆษกกองทัพอากาศ ยันระเบิดที่ถูกขุดพบจากกัมพูชา ไม่ใช่ของกองทัพอากาศที่ปฏิบัติกับฐานที่มั่นทางทหารของกัมพูชา ตั้งข้อสังเกตเก่า เหมือนถูกขุดจากใต้ที่พักอาศัย จากกรณีที่พบระเบิด MK-84 ที่กัมพูชาขุดขึ้น ตามที่เฟซบุ๊กของนายแฮง รัตนา เอาภาพมาลงนั้น พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ระบุกว่า ได้มีข้อสังเกตว่า ระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพเก่าและมีลักษณะคล้ายถูกขุดขึ้นมาจากใต้ที่พักอาศัยของประชาชน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากปฏิบัติการทางอากาศในช่วงที่ผ่านมา ดูจากสภาพที่ขึ้นสนิมไม่ใช่ของกองทัพอากาศไทย เนื่องจากลูกระเบิดที่กองทัพอากาศใช้มีสภาพใหม่และสมบูรณ์ ไม่เป็นสนิมขนาดนั้น ดูจากเส้นรอบวงโดยประมาณและความยาวคาดว่าเป็นลูกระเบิดอากาศขนาด 2000 ปอนด์ แบบตะวันตกที่มีใช้ทั่วไปสภาพความลึก และวางขนานกับพื้น ไม่เหมือนทิ้งจากเครื่องบิน .-313 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปากตระกูลฮุน

กระทรวงมหาดไทย 31 ก.ค.- “ภูมิธรรม” เสียใจผู้อพยพจบชีวิตเหตุเครียดอยากกลับบ้าน ขอประเมินให้ปลอดภัยก่อน บอกไทยประสบความสำเร็จยึดดินแดนได้ ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปาก 2 พ่อลูกตระกูลฮุน ชี้ ทหารกัมพูชา 18 นาย รุกล้ำเข้าไทยหลังประกาศหยุดยิง เตรียมส่งตัวคืน แต่อีกฝ่ายปล่อยเฟกนิวส์ จึงต้องคุมตัวสอบก่อน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้พบว่ามีประชาชนฆ่าตัวตาย เพราะเครียดต่อสถานการณ์และอยากกลับบ้าน ว่าตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต พร้อมยอมรับว่าเป็นความห่วงใยของรัฐบาล แม้ว่าจะอยากให้เดินทางกลับบ้านพักเลยแต่สถานการณ์ยังไม่มั่นใจ 100 % เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่กัมพูชาพูดสามารถเชื่อได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรอการประเมินอีกครั้งหนึ่งก่อนว่าหากไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็สามารถเดินทางกลับบ้านพักได้ ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าการที่กัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงพื้นที่ เป็นเพราะเขาเป็นผู้ก่อเหตุจึงมั่นใจว่าเราจะไม่ทำอะไร และเราเองก็เป็นฝ่ายถูกกระทำ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มั่นใจว่ากัมพูชาจะกระทำอย่างไร ส่วนไทยจะใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด้านการทูตและด้านพื้นที่อย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้เราไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา การดำเนินการต่างๆเราก็คุยกับนานาชาติอยู่เสมอ แต่ข้อสำคัญอยู่ที่หลักฐานเพราะเขาพูดไปได้เรื่อยๆ แต่เราพูดมีหลักฐานรองรับ ขณะที่ข้อเท็จจริงเรื่องปราสาทตาควายที่มีการพูดกันว่าทางกัมพูชาเข้าครอบครองตัวปราสาท แต่เราได้ครอบครองเพียงพื้นที่โดยรอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากพูดถึงในแง่การยุทธ์ การยึดคืนในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเราประสบความสำเร็จ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แล้วพื้นที่ตัวปราสาทเป็นเช่นไร […]