ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

กำแพงเพชร 18 ธ.ค. – สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะตำรวจตั้งจุดสกัด บริเวณ ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร เพื่อจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าว หลังได้ข้อมูลว่าจะมีขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวจากอำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ผ่านพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เป็นรถ 3 คัน ประกอบด้วยกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียนจังหวัดตาก ทำหน้าที่รถนำทาง, รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียนจังหวัดสระบุรี และ รถยนต์กระบะ 4 ประตูมีหลังคาแครี่บอย ทะเบียนอุตรดิตถ์ โดยใช้เส้นทางถนนหนองแดน-นาบ่อคำ ในการลักลอบเดินทาง เมื่อรถเป้าหมายขับผ่าน ตำรวจจึงใช้รถโล่ตำรวจจอดขวางไว้ 1 ช่องทาง และวางอุปกรณ์สกัดเจาะยางรถยนต์ ไว้บนถนนในช่องทาง ที่เปิดไว้ แต่รถขบวนการขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน ที่มีนายสัว อายุ 45 ปี และนายทรงพล เป็นคนขับ กลับเร่งความเร็วก่อนถึงจุดสกัด โดยรถทะเบียนสระบุรี ขับหักไปอีกเลน ซึ่งมีอุปกรณ์สกัดเจาะยางรถยนต์วางอยู่ เพื่อฝ่าหลบหนีจุดสกัด ทำให้ล้อหน้ารถทั้งสองข้างยางรั่วไม่สามารถไปต่อได้

ขณะที่กระบะ 4 ประตู ทะเบียนอุตรดิตถ์ ของนายทรงพล ไม่ยอมหยุดรถ และพุ่งชนรถตำรวจที่จอดอยู่อย่างจัง ทำให้ตำรวจที่อยู่บริเวณดังกล่าวกระโดดหลบกันจ้าละหวั่น แต่ท้ายรถได้ฟาดร่างของ ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ภวัตรัชต์พงษ์ หรือ หมู่อาร์ม ที่ยืนปฏิบัติหน้าที่กระเด็นไปฟาดกับเสาไฟส่องสว่างข้างทางเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับรถ กระโดดออกจากรถ และวิ่งหนีเข้าไปในป่าอ้อยข้างทาง ตำรวจจึงปิดล้อมและจับกุมตัวได้ในที่สุด ขณะที่นายทรงพลได้โทรตามนายนิพัทธ์ พี่ชายที่ขับรถนำทางว่ารถของตนตกถนน นายนิพัทธ์จึงขับรถวนกลับมาดู และถูกจับกุมได้ทั้งหมด โดยรถทั้ง 3 คัน ขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาทั้งหมด 19 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 8 คน


จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การรับสารภาพว่า รับแรงงานต่างด้าวมาจากพื้นที่อำเภอวังเจ้าจังหวัดตาก จะไปส่งที่จังหวัดอุทัยธานี โดยได้ค่าขนส่งคันละ 8,000 บาท นายทรงพล คนขับรถคันสุดท้ายที่ชนตำรวจเสียชีวิต เล่าให้ฟังว่าขนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้ โดยอ้างว่ามาถึงที่เกิดเหตุไม่เห็นรถตำรวจเห็นแค่รถคันหน้าหักหลบ ถ้าเห็นตนก็จะไม่ชนพอรู้ว่าชนด้วยความตกใจจึงหลบหนี และระหว่างที่พันตำรวจเอกเอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร กำลังสอบปากคำอยู่นั้น นายทรงพล ยังได้ต่อรองลดข้อกล่าวหา ให้เหลือแค่ขนแรงงานต่างด้าวเพียงข้อหาเดียว

ในส่วนของผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย คนขับรถขนแรงงานต่างด้าว 3 คัน และแรงงานต่างด้าว 19 คน ถูกคุมตัวมาสอบสวนที่ป้อมสายตรวจจุฬา โดยมีทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำและบันทึกประวัติแรงงานทั้งหมด เพื่อคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นจะถูกส่งตัวไปฝากขังที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร เพื่อรอผลักดันออกนอกประเทศ ซึ่งจากการสอบปากคำ พบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมด จะเดินทางไปในหลายจังหวัด มีทั้งกรุงเทพ ชลบุรีและปริมณฑล โดยจะไปหลบซ่อนตำรวจ ตามจุดต่างๆ จากนั้นจะมีนายหน้ามารับไปทำงานอีกครั้ง

สำหรับกลุ่มผู้ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว จากการสืบสวนเบื้องต้น เป็นกลุ่มของม้ง บ้านวังน้ำเย็น อำเภอวังเจ้า โดยทำเป็นกระบวนการ มีกลุ่มขนแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา และมีอีกกลุ่มที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมและตรวจค้นของทหารและตำรวจ โดยนำมาส่งให้กับกลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่บ้านวังน้ำเย็น เพื่อที่จะนำเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน


พล.ต.ต.โอภาส คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า ในทางคดีขณะนี้ยังอยู่ในการคัดแยกเหยื่ออยู่ ส่วนข้อหาหลักคือ ซ่อนเร้นและช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและราชอาณาจักรโดนไม่ได้รับอนุญาติ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และจะมีการแจ้งข้อหาอื่นๆเพิ่มเติม

ขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกำแพงเพชร ได้เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ในรถผู้ต้องหาทั้งสามคัน โดยเก็บตัวอย่างดินเส้นผมและหลักฐานอื่นๆ เพื่อที่นำไปประกอบสำนวนคดี

ส่วนศพของ ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ภวัตรัชต์พงษ์ ซึ่งส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ครอบครัวได้เดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด หมู่ที่ 4 ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยศพ ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ บรรจุในโลงศพสีขาวฟ้า มีธงชาติคลุมอย่างสมเกียรติ พันตำรวจเอกกรวิทย์ อ่อนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร นำแถวเกียรติยศทำความเคารพ และเคลื่อนศพเข้าไป ประกอบพิธีรดน้ำศพ ขณะที่นางสาววรรณชนก ภรรยาผู้เสียชีวิต ร้องไห้อย่างหนักตลอดเวลา และบอกว่ายังไม่เห็นหน้าคนที่ทำให้สามีตาย พร้อมคำถามจุกอก จะมาขอขมาศพหรือเปล่า รู้สึกผิดอะไรบ้างไหม

ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจต่อครอบครัว ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ สดุดีตำรวจกล้า ที่ทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” จนวาระสุดท้ายของชีวิต สั่งจัดพิธีให้สมเกียรติ ดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมให้ถอดบทเรียนเพิ่มประสิทธิภาพการตั้งด่านตรวจ

โดยล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ขั้นยศ จากสิบตำรวจโท เป็น ร.ต.ต. มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.1 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) […]

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]