ตั้ง กก.สอบ ปมหนุ่มเข้ารักษาอาการลงแดง ถูกซ้อมตายคา รพ.

ถูกซ้อมตาย

ศรีสะเกษ 11 ธ.ค. – สสจ.ศรีสะเกษ สั่งตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่ รพ. กรณีชายวัย 31 ปี เข้ารักษาอาการลงแดงหลังหักดิบเลิกเหล้า แต่สุดท้ายเสียชีวิต กล้องวงจรปิดยืนยันถูกทำร้ายร่างกาย ผลชันสูตรชี้สองบวมจากการถูกของแข็งกระแทก


จากกรณีนายสะอาด อายุ 31 ปี ชาวตำบลขนุน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้ญาติติดใจสงสัยสาเหตุการตาย เนื่องจากนายสะอาด อยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาตัว

นายทองสุข อายุ 62 ปี พ่อของผู้ตาย เล่าว่า สาเหตุที่พาลูกชายเข้าโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เนื่องจากลูกชายมีอาการช็อก สั่น เพราะขาดเหล้า (อาการลงแดง) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา รักษา 2 คืน หลังจากนั้นวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ย้ายลูกชายไปรักษาอีกตึกหนึ่ง พยาบาลแจ้งว่าลูกชายมีอาการพูดคุยไม่รู้เรื่อง เมื่อไปถึงตึก หมอให้รอนอกห้อง และมีการล็อกห้องไว้ ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน อยู่ข้างใน ต่อมาก็ได้ยินเสียงร้องของลูกชาย จึงเชื่อว่าลูกชายถูกรุมทำร้าย พ่อจึงไปถามเจ้าหน้าที่ว่า “ทำแรงเกินไปมั้ย” เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า “จะให้รักษามั้ย”พ่อจึงต้องมานั่งรอจนกระทั่งเช้า พอกลับบ้านไปช่วงเย็น มีคนโทรมาหาบอกว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว ให้เหตุผลว่า “ทำรุนแรงไปหน่อย”


นางสาวนาตยา อายุ 23 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต เล่าว่าหลังเหตุการณ์ ตนได้เข้าไปเยี่ยมพี่ชาย ตอน 6 โมงเย็น ของวันที่ 7 ธ.ค. ก็เห็นสภาพถูกมัดมือ มัดเท้า น่วมไปทั้งตัว แต่ยังพูดคุยรู้เรื่อง นายสะอาดบอกกับตนว่า “อยากกลับบ้าน อยู่ที่โรงพยาบาลยังไงก็ตาย เพราะถูกทุบตี เหมือนเอามาฆ่าให้ตาย” เมื่อพี่ชายพูดจบ พยาบาลก็รีบให้ตนออกจากห้อง เพราะหมดเวลาเยี่ยมแล้ว พอมาถึงบ้าน ประมาณ 2 ทุ่มกว่า เจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งว่า พี่ชายเสียชีวิตแล้ว

ญาติบอกว่า มีข้อผิดสังเกตหลายอย่าง ทั้งบาดแผลหลายจุดการให้รีบเอาศพออกแบบเร่งด่วน ทั้งที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ครั้งแรกนำร่างไปทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ผลการชันสูตรเครื่องสแกนสมอง ไม่พบอาการผิดปกติ ซึ่งญาติไม่เชื่อ จึงประสานขอนำร่างไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ จนกระทั่ง มาพบว่าผู้ตายเสียชีวิตจากสมองได้รับบาดเจ็บ จากการถูกของแข็งกระแทก

และในที่สุดความจริงก็ปรากฏ ว่าเหตุการณ์ในห้องนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อญาติได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นภาพเจ้าหน้าที่ และพยาบาล 4 คน จับทุ่ม และทุบตีนายสะอาด ขณะที่ลุกออกจากเตียง ทันทีที่แม่ และญาติๆ ได้เห็นคลิปนี้ ถึงกับเข่าอ่อน รับไม่ได้กับการกระทำของเจ้าหน้าที่


ขณะที่ นายมีผล อายุ 70 ปี ลุงของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เห็นคลิปแล้ว ตนรับไม่ได้ เพราะตามที่เห็นคือหลานไม่ได้ต่อสู้ หรือโวยวายอะไรเลย ตนไม่ให้อภัยกับสิ่งที่กระทำอย่างแน่นอน และทำไมหน่วยงานต้องปกปิดข้อเท็จจริง

นายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมคณะ ไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต มอบสิ่งและเงินจำนวนหนึ่งให้กับญาติ และเข้าพูดคุยกับแม่ผู้เสียชีวิต พร้อมเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคลิปเหตุการณ์มองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ แม้บางครั้งเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หน่วยงานก็ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ อาจเป็นเรื่องการขาดทักษะของเจ้าหน้าที่ในการดูแลพยาบาลผู้ป่วย ซึ่งตอนนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนแล้ว และจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ขณะที่โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ มีรายงานว่า อาจจะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยผู้บริหารระดับสูง จะเป็นคนแถลงชี้แจงเอง

ระหว่างที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ มอบเงินช่วยงาน ทางแม่ของผู้ตายจะไม่รับเงิน เนื่องจากคิดว่าเป็นช่วยเหลือจากทางโรงพยาบาลกันทรลักษ์ แต่พอทำความเข้าใจกัน แม่จึงยอมรับเงินจากสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งน้ำตา

ด้าน พ.ต.อ.ฉัตรพัฒน์ แก้วจันดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สั่งการให้ร่วมกับผู้กำกับ สภ.กันทรลักษ์ ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน และขณะนี้สอบปากคำไปแล้ว 5-6 ปาก และเจ้าหน้าที่เดินทางมาให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต ขอให้เชื่อมั่นว่าให้ความเป็นธรรม จะนำตัวผู้ที่กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ได้โดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]