ปธน.เกาหลีใต้ ยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว หลังประกาศกลางดึก

เกาหลีใต้ 4 ธ.ค. – ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึกในประเทศกลางดึก อ้างพรรคฝ่ายค้านหนุนหลังเกาหลีเหนือและพยายามต่อต้านอำนาจรัฐ แต่สมาชิกรัฐสภาลงมติคัดค้านกฎอัยการศึกด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ ท่ามกลางการประท้วงทั้งประเทศ สุดท้ายผู้นำเกาหลีใต้กลืนน้ำลายยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว


กลายเป็นข่าวใหญ่ที่ทำให้ทั่วโลกทั้งตกตะลึงและแปลกใจไปตามๆ กัน กับกรณีประธานาธิบดียุน ซ็อก ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก ในการแถลงช่วง 22.23 น. กลางดึกวานนี้ (3 ธ.ค.) ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ YTN ทั่วประเทศ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ระบุว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อกำจัดกองกำลังต่อต้านรัฐไร้ยางอายที่สนับสนุนเกาหลีเหนือ อันหมายถึงพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่นายยุนอ้างว่าสนับสนุนเกาหลีเหนือและทำกิจกรรมต่อต้านรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งในรัฐสภา เกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณ ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า นายยุนไม่ได้อ้างภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจงจากเกาหลีเหนือ แต่กลับพุ่งเป้าไปที่คู่แข่งทางการเมืองในประเทศแทน

นายยุน กล่าวว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ อ้างพรรคฝ่ายค้านได้เข้ามามีบทบาทในการจับกระบวนการรัฐสภาเป็นตัวประกัน จนทำให้ประเทศเข้าสู่วิกฤติ


การเคลื่อนไหวที่สร้างความประหลาดใจนี้สั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ เพราะถือเป็นการประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ครั้งแรกในรอบ 44 ปี นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีชุน ดู-ฮวาน ประกาศในการทำรัฐประหารเมื่อปี 2523 หลังจากประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกผ่านทางทีวีไม่นาน ประชาชนเริ่มออกมารวมตัวกันนอกอาคารรัฐสภา เรียกร้องให้ให้ถอนกฎอัยการศึกฉุกเฉิน และจับกุมตัวประธานาธิบดียุน

นอกจากนี้ยังมีทหารจำนวนหนึ่งพยายามเคลื่อนกำลังเข้าสู่อาคารรัฐสภา เพื่อสกัดกั้นไม่ให้สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติ เป็นไปตามคำประกาศกฎอัยการศึกที่ห้ามทำกิจกรรมหรือชุมนุมทางการเมือง ทำเอาสถานการณ์บริเวณอาคารรัฐสภาเป็นไปอย่างอลหม่าน สมาชิกรัฐสภาพยายามผลักอันทหารไม่ให้เข้าไปด้านใน สมาชิกสภาบางส่วนถึงกับปืนรั้วด้านนอกเพื่อหวังเข้าไปใช้ประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้ ท่ามกลางรถถังและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอยู่บริเวณโดยรอบ

อย่างไรก็ดี สมาชิกรัฐสภา 190 คน จากทั้งหมด 300 คน ทั้งจากพรรครัฐบาลของประธานาธิบดียุนเอง และพรรคฝ่ายค้าน สามารถเข้าร่วมการประชุมสภาได้ โดยไม่สนใจคำสั่งห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองของผู้นำประเทศ ก่อนลงมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 190 ต่อ 0 ไม่ยอมรับและให้ยกเลิกคำประกาศกฎอัยการศึกดังกล่าว เพียง 2 ชั่วโมง หลังคำมีการประกาศโดยประธานาธิบดียุน และยืนยันว่าเป็นคำประกาศที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพราะสภาไม่รับรอง เรียกร้องให้ประธานาธิบดียุนยกเลิกคำสั่ง ไม่เช่นนั้นจะถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง ส่งผลให้ทหารบางส่วนในชุดปราบจลาจลทยอยออกจากอาคารรัฐสภาในเวลาต่อมา


จนเมื่อเวลา 05.18 น.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (4 ธ.ค.) ซึ่งเร็วกว่าบ้านเรา 2 ชั่วโมง ประธานาธิบดียุนก็ตัดสินใจยกเลิกคำประกาศกฎอัยการศึกแล้ว หลังจากมีการเรียกประชุมคณะรัฐมนตรี เป็นการยุติสถานการณ์ความสับสนอลหม่านทางการเมืองที่สุดในรอบหลายสิบปีของเกาหลีใต้ภายในคืนเดียว ส่วนประชาชนที่มาชุมนุมหน้ารัฐสภาต่างยินดีที่คำประกาศกฎอัยการศึกถูกยกเลิกในที่สุด

นักวิเคราะห์หลายฝ่ายชี้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้คำประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุนล้มเหลวในครั้งนี้ มาจากการที่กองทัพดูเหมือนจะไม่พร้อมจะบังคับใช้กฎอัยการศึกตามคำสั่งผู้นำ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน จนดูเหมือนเป็นวิกฤติรัฐธรรมนูญ เนื่องจากฝ่ายค้านเกาหลีใต้ครองเสียงข้างมากในสภาจนรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าบริหารประเทศได้อย่างเต็มกำลัง นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุนรอบนี้เป็นเหมือนความพยายามก่อรัฐประหารด้วยซ้ำ ทำให้ผู้คนในประเทศวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะพันธมิตรของเกาหลีใต้จับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกังวล

ทั้งนี้ ประธานาธิบดียุนซึ่งดำรงตำแหน่งหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2022 ถูกมองว่าไร้ประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ ประชาชนเพียงร้อยละ 17 เท่านั้นที่ยังสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ และเกินกว่าครึ่งต้องการให้เขาลาออกหรือถูกถอดถอนจากตำแหน่ง เหตุผลสำคัญมาจากรัฐบาลของเขาไม่สามาถเดินหน้าผลักดันนโยบายและกฎหมายสำคัญๆ ได้เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากในสภา โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อีกทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลหลายคน รวมถึง คิม กวอน-ฮี ภริยาของเขา ยังตกเป็นเป้าถูกสอบสวนเรื่องทุจริตและประพฤติมิชอบหลายอย่าง แต่ประธานาธิบดียุนก็ขัดขวางความพยายามของพรรคฝ่ายค้านในเรื่องนี้มาโดยตลอด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

เชียงใหม่เตรียมรับมือพายุบัวลอย

เชียงใหม่ 28 ก.ย.- เชียงใหม่เร่งระบายน้ำปิงต่อเนื่อง เตรียมรับมือพายุบัวลอย จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ขณะที่ชาวบ้านจุดเสี่ยงริมแม่น้ำปิง แห่ขนกระสอบทรายมากั้น ป้องกันน้ำทะลักเข้าบ้าน เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทราบข่าวพายุบัวลอย ประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงริมแม่น้ำปิง จ.เชียงใหม่ พากันนำรถยนต์ ไปขนกระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะรถไฟ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกระสอบทรายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นำมาแจกให้ฟรี กว่า 25,000 ใบ โดยมีทหารจิตอาสา จากค่ายกาวิละ ไปช่วยตักทรายใส่กระสอบ แต่ประชาชนมีจำนวนมาก บางรายก็ตักทรายกันเอง เอาใส่กระสอบ และทยอยขนขึ้นใส่รถอย่างเร่งรีบ เพื่อนำกระสอบทรายไปกั้น ป้องกันน้ำจะทะลักเข้าบ้าน ขณะที่เวลา 24.00 น. ระดับน้ำ P1 เชิงสะพานนวรัฐ อยู่ที่ความสูง 3.92 เมตร แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยทางจังหวัดยืนยันว่าตลิ่งสามารถป้องกันได้ถึง 4.20 เมตร จะมีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำเท่านั้น ที่อาจได้รับผลกระทบ ล่าสุดเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำในแม่น้ำปิงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เขตพื้นที่เมืองเชียงใหม่ จนถึงประตูระบายน้ำแม่สอย ที่เป็นตัวสุดท้ายของลำน้ำปิง โดยที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ได้มีการยกบานพ้นน้ำทั้ง 6 […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย

เร่งเทปูนใต้อาคาร สน.สามเสน “พิพัฒน์” คาดคืนผิวจราจร 8 ต.ค.

28 ก.ย.- จนท.เร่งเทปูนทำฐานรากใต้อาคาร สน.สามเสน ให้สูงถึงระดับเสาเข็มที่ขาดไป และจะใช้เครนขนาดใหญ่ยกวัสดุสิ่งของในหลุมขึ้นมา ก่อนถมดิน-หินคลุก เพื่อคืนพื้นผิวถนน ด้าน “พิพัฒน์” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า หวังทุกอย่างเป็นตามเป้าหมาย คืนผิวจราจรได้ 8 ต.ค.นี้ -สำนักข่าวไทย