ภาคใต้น่าห่วง น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ ยะลาอ่วมสุด

ภาคใต้ 27 พ.ย. – จังหวัดภาคใต้น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.ยะลา หนักสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่ปัตตานี ประกาศให้โรงเรียนในเขตเทศบาลฯ ปิดการเรียนการสอน 2 วัน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤติ


ช่วงเวลา 17.30 น.ที่ผ่านมา พื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้าเขตเทศบาลนครยะลา ยังคงมีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และมวลน้ำจาก ต.สะเตงนอก ที่ไหลลงมาบรรจบที่บึงแบเมาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี ทำให้บริเวณหน้าโรงแรมยะลารามา ถนนศรีบำรุง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ระดับน้ำท่วมยังคงสูงขึ้น 70-85 เซนติเมตร

นายเสริมวิทย์ ลิขิตกำจร ผู้ประกอบการย่านเศรษฐกิจการค้าใจกลางเมืองยะลา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 17.30 น. ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 10-15 เซนติเมตร และขยายเป็นวงกว้าง ร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ต่างทยอยเก็บของขึ้นที่สูง ขณะที่การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารราบที่ 152 พัน 3 ช่วยร้านค้าเก็บสิ่งของเพื่อนำไปเก็บในที่ปลอดภัย


นอกจากนี้ทางเทศบาลนครยะลา ยังจัดศูนย์พักพิงให้กับครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วม ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านเรือนได้ ที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนเทศบาล 3 นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ มาอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมทั้งการดูแลด้านเวชภัณฑ์ และอาหารปรุงสุก ให้กับผู้ที่ประสบภัยอย่างเต็มที่

อ.ควนโดน จ.สตูล อ่วม ระดับน้ำท่วมสูง 2 ตำบล 12 หมู่บ้าน
ที่ จ.สตูล ฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพื้นที่หนักสุดยังคงเป็น ต.ควนโดน และ ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน น้ำท่วมแล้วรวม 12 หมู่บ้าน โดยมวลน้ำไไหลเข้าท่วมพื้นที่ ม.6 บ้านปันจอร์ ต.ย่านซื่อ ระดับน้ำสูง 50-70 เซนติเมตร

โดยที่มัสยิดอะห์มาดีย๊ะ น้ำไหลเข้าท่วมจนคณะกรรมการมัสยิดต้องเร่งยกข้าวของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง ร้านค้าบริเวณดังกล่าวต่างยกข้าวของขึ้นไว้บนที่สูง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้าต่างๆ อย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องนำรถออกมาจอดริมถนน 4 เลน โดยระดับน้ำบริเวณดังกล่าวล้นขึ้นมาถึงถนนสายหลัก เส้นทางสตูล-หาดใหญ่ จนแขวงการทางต้องนำกรวยมาปิดกั้นการจราจรขาออกให้วิ่งเลนเดียว


ส่วนความช่วยเหลือ ทหาร ร.5 พัน 2 ช่วยชาวบ้านยกรถที่ติดน้ำไม่สามารถนำออกมาได้ นำออกมาด้านนอก เพราะเกรงว่าระดับน้ำจะสูงกว่าเดิม เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาตลอดทั้งวัน

ขณะที่ ตชด.436 จ.สตูล ออกช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการขนย้ายสิ่งของ มอบน้ำดื่ม เนื่องจากชาวบ้านร้องขอน้ำดื่ม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่รับน้ำต่อไปอยู่ที่บ้านโคกประดู่ บ้านโต๊ะวัง บ้านคลองช้าง ต.ฉลุง อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน ชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเร่งนำสัตว์เลี้ยงและสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย คาดว่า 3 หมู่บ้านเสี่ยงภัย ต.ฉลุง น้ำจะเข้าท่วมในช่วงค่ำคืนนี้

ปัตตานีประกาศปิดโรงเรียนในเขตเทศบาล 2 วัน สถานการณ์น้ำวิกฤติ
บรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ขณะนี้มวลน้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่แล้ว สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ร้านค้าต่างขนย้ายข้าวของหนีน้ำและปิดกิจการชั่วคราว ทางเทศบาลเมืองปัตตานีได้ออกหนังสือคำสั่งประกาศหยุดเรียน 2 วัน โดยมีผลในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.)

ขณะช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถนนหลายเส้นน้ำเริ่มเข้าท่วมสูง ทางเทศบาลเมืองปัตตานีพยายามเร่งสูบน้ำและระบายลงสู่แม่น้ำปัตตานีที่ไหลผ่านใจกลางเมือง แต่เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี บางจุดเริ่มเอ่อท่วมบ้านเรือนริมฝั่ง หลายคนจึงเคลื่อนย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาไว้บนสะพานหรือที่สูง

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองปัตตานีประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันในค่ำวันนี้ (26 พ.ย.) เพราะเมืองปัตตานี เป็นพื้นที่ปลายน้ำที่ต้องรองรับน้ำจาก จ.ยะลา ก่อนระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทย

รถไฟปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายใต้ ชั่วคราว
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ยะลา ทำให้ทางรถไฟได้รับความเสียหาย ระหว่างสถานีไม้แก่น-รามัน ที่ กม.1055/3-4 การรถไฟฯ จึงขอปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายใต้ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ดังนี้

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
เที่ยวไป จำนวน 7 ขบวน เช่น ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่, ขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพอภิวัฒน์-ยะลา ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานียะลา เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่, ขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่ ส่วนเที่ยวกลับ จำนวน 6 ขบวน เช่น ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 38 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพอภิวัฒน์

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป เที่ยวไป จำนวน 7 ขบวน
-ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่
-ขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพอภิวัฒน์-ยะลา ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานียะลา เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย