ภาคใต้น่าห่วง น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ ยะลาอ่วมสุด

ภาคใต้ 27 พ.ย. – จังหวัดภาคใต้น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.ยะลา หนักสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่ปัตตานี ประกาศให้โรงเรียนในเขตเทศบาลฯ ปิดการเรียนการสอน 2 วัน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤติ


ช่วงเวลา 17.30 น.ที่ผ่านมา พื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้าเขตเทศบาลนครยะลา ยังคงมีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และมวลน้ำจาก ต.สะเตงนอก ที่ไหลลงมาบรรจบที่บึงแบเมาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี ทำให้บริเวณหน้าโรงแรมยะลารามา ถนนศรีบำรุง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ระดับน้ำท่วมยังคงสูงขึ้น 70-85 เซนติเมตร

นายเสริมวิทย์ ลิขิตกำจร ผู้ประกอบการย่านเศรษฐกิจการค้าใจกลางเมืองยะลา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 17.30 น. ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 10-15 เซนติเมตร และขยายเป็นวงกว้าง ร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ต่างทยอยเก็บของขึ้นที่สูง ขณะที่การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารราบที่ 152 พัน 3 ช่วยร้านค้าเก็บสิ่งของเพื่อนำไปเก็บในที่ปลอดภัย


นอกจากนี้ทางเทศบาลนครยะลา ยังจัดศูนย์พักพิงให้กับครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วม ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านเรือนได้ ที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนเทศบาล 3 นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ มาอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมทั้งการดูแลด้านเวชภัณฑ์ และอาหารปรุงสุก ให้กับผู้ที่ประสบภัยอย่างเต็มที่

อ.ควนโดน จ.สตูล อ่วม ระดับน้ำท่วมสูง 2 ตำบล 12 หมู่บ้าน
ที่ จ.สตูล ฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพื้นที่หนักสุดยังคงเป็น ต.ควนโดน และ ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน น้ำท่วมแล้วรวม 12 หมู่บ้าน โดยมวลน้ำไไหลเข้าท่วมพื้นที่ ม.6 บ้านปันจอร์ ต.ย่านซื่อ ระดับน้ำสูง 50-70 เซนติเมตร

โดยที่มัสยิดอะห์มาดีย๊ะ น้ำไหลเข้าท่วมจนคณะกรรมการมัสยิดต้องเร่งยกข้าวของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง ร้านค้าบริเวณดังกล่าวต่างยกข้าวของขึ้นไว้บนที่สูง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้าต่างๆ อย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องนำรถออกมาจอดริมถนน 4 เลน โดยระดับน้ำบริเวณดังกล่าวล้นขึ้นมาถึงถนนสายหลัก เส้นทางสตูล-หาดใหญ่ จนแขวงการทางต้องนำกรวยมาปิดกั้นการจราจรขาออกให้วิ่งเลนเดียว


ส่วนความช่วยเหลือ ทหาร ร.5 พัน 2 ช่วยชาวบ้านยกรถที่ติดน้ำไม่สามารถนำออกมาได้ นำออกมาด้านนอก เพราะเกรงว่าระดับน้ำจะสูงกว่าเดิม เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาตลอดทั้งวัน

ขณะที่ ตชด.436 จ.สตูล ออกช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการขนย้ายสิ่งของ มอบน้ำดื่ม เนื่องจากชาวบ้านร้องขอน้ำดื่ม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่รับน้ำต่อไปอยู่ที่บ้านโคกประดู่ บ้านโต๊ะวัง บ้านคลองช้าง ต.ฉลุง อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน ชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเร่งนำสัตว์เลี้ยงและสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย คาดว่า 3 หมู่บ้านเสี่ยงภัย ต.ฉลุง น้ำจะเข้าท่วมในช่วงค่ำคืนนี้

ปัตตานีประกาศปิดโรงเรียนในเขตเทศบาล 2 วัน สถานการณ์น้ำวิกฤติ
บรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ขณะนี้มวลน้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่แล้ว สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ร้านค้าต่างขนย้ายข้าวของหนีน้ำและปิดกิจการชั่วคราว ทางเทศบาลเมืองปัตตานีได้ออกหนังสือคำสั่งประกาศหยุดเรียน 2 วัน โดยมีผลในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.)

ขณะช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถนนหลายเส้นน้ำเริ่มเข้าท่วมสูง ทางเทศบาลเมืองปัตตานีพยายามเร่งสูบน้ำและระบายลงสู่แม่น้ำปัตตานีที่ไหลผ่านใจกลางเมือง แต่เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี บางจุดเริ่มเอ่อท่วมบ้านเรือนริมฝั่ง หลายคนจึงเคลื่อนย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาไว้บนสะพานหรือที่สูง

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองปัตตานีประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันในค่ำวันนี้ (26 พ.ย.) เพราะเมืองปัตตานี เป็นพื้นที่ปลายน้ำที่ต้องรองรับน้ำจาก จ.ยะลา ก่อนระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทย

รถไฟปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายใต้ ชั่วคราว
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ยะลา ทำให้ทางรถไฟได้รับความเสียหาย ระหว่างสถานีไม้แก่น-รามัน ที่ กม.1055/3-4 การรถไฟฯ จึงขอปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายใต้ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ดังนี้

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
เที่ยวไป จำนวน 7 ขบวน เช่น ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่, ขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพอภิวัฒน์-ยะลา ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานียะลา เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่, ขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่ ส่วนเที่ยวกลับ จำนวน 6 ขบวน เช่น ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 38 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพอภิวัฒน์

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป เที่ยวไป จำนวน 7 ขบวน
-ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่
-ขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพอภิวัฒน์-ยะลา ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานียะลา เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย