ภาคใต้น่าห่วง น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ ยะลาอ่วมสุด

ภาคใต้ 27 พ.ย. – จังหวัดภาคใต้น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.ยะลา หนักสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่ปัตตานี ประกาศให้โรงเรียนในเขตเทศบาลฯ ปิดการเรียนการสอน 2 วัน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤติ


ช่วงเวลา 17.30 น.ที่ผ่านมา พื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้าเขตเทศบาลนครยะลา ยังคงมีระดับน้ำสูงขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และมวลน้ำจาก ต.สะเตงนอก ที่ไหลลงมาบรรจบที่บึงแบเมาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานี ทำให้บริเวณหน้าโรงแรมยะลารามา ถนนศรีบำรุง รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ระดับน้ำท่วมยังคงสูงขึ้น 70-85 เซนติเมตร

นายเสริมวิทย์ ลิขิตกำจร ผู้ประกอบการย่านเศรษฐกิจการค้าใจกลางเมืองยะลา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 17.30 น. ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 10-15 เซนติเมตร และขยายเป็นวงกว้าง ร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ต่างทยอยเก็บของขึ้นที่สูง ขณะที่การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารราบที่ 152 พัน 3 ช่วยร้านค้าเก็บสิ่งของเพื่อนำไปเก็บในที่ปลอดภัย


นอกจากนี้ทางเทศบาลนครยะลา ยังจัดศูนย์พักพิงให้กับครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วม ไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านเรือนได้ ที่ศูนย์พักพิงโรงเรียนเทศบาล 3 นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ มาอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมทั้งการดูแลด้านเวชภัณฑ์ และอาหารปรุงสุก ให้กับผู้ที่ประสบภัยอย่างเต็มที่

อ.ควนโดน จ.สตูล อ่วม ระดับน้ำท่วมสูง 2 ตำบล 12 หมู่บ้าน
ที่ จ.สตูล ฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพื้นที่หนักสุดยังคงเป็น ต.ควนโดน และ ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน น้ำท่วมแล้วรวม 12 หมู่บ้าน โดยมวลน้ำไไหลเข้าท่วมพื้นที่ ม.6 บ้านปันจอร์ ต.ย่านซื่อ ระดับน้ำสูง 50-70 เซนติเมตร

โดยที่มัสยิดอะห์มาดีย๊ะ น้ำไหลเข้าท่วมจนคณะกรรมการมัสยิดต้องเร่งยกข้าวของเครื่องใช้ขึ้นที่สูง ร้านค้าบริเวณดังกล่าวต่างยกข้าวของขึ้นไว้บนที่สูง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้าต่างๆ อย่างรวดเร็ว ชาวบ้านต้องนำรถออกมาจอดริมถนน 4 เลน โดยระดับน้ำบริเวณดังกล่าวล้นขึ้นมาถึงถนนสายหลัก เส้นทางสตูล-หาดใหญ่ จนแขวงการทางต้องนำกรวยมาปิดกั้นการจราจรขาออกให้วิ่งเลนเดียว


ส่วนความช่วยเหลือ ทหาร ร.5 พัน 2 ช่วยชาวบ้านยกรถที่ติดน้ำไม่สามารถนำออกมาได้ นำออกมาด้านนอก เพราะเกรงว่าระดับน้ำจะสูงกว่าเดิม เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาตลอดทั้งวัน

ขณะที่ ตชด.436 จ.สตูล ออกช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการขนย้ายสิ่งของ มอบน้ำดื่ม เนื่องจากชาวบ้านร้องขอน้ำดื่ม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่รับน้ำต่อไปอยู่ที่บ้านโคกประดู่ บ้านโต๊ะวัง บ้านคลองช้าง ต.ฉลุง อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน ชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเร่งนำสัตว์เลี้ยงและสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย คาดว่า 3 หมู่บ้านเสี่ยงภัย ต.ฉลุง น้ำจะเข้าท่วมในช่วงค่ำคืนนี้

ปัตตานีประกาศปิดโรงเรียนในเขตเทศบาล 2 วัน สถานการณ์น้ำวิกฤติ
บรรยากาศในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ขณะนี้มวลน้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่แล้ว สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ร้านค้าต่างขนย้ายข้าวของหนีน้ำและปิดกิจการชั่วคราว ทางเทศบาลเมืองปัตตานีได้ออกหนังสือคำสั่งประกาศหยุดเรียน 2 วัน โดยมีผลในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.)

ขณะช่วงบ่ายที่ผ่านมา ถนนหลายเส้นน้ำเริ่มเข้าท่วมสูง ทางเทศบาลเมืองปัตตานีพยายามเร่งสูบน้ำและระบายลงสู่แม่น้ำปัตตานีที่ไหลผ่านใจกลางเมือง แต่เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี บางจุดเริ่มเอ่อท่วมบ้านเรือนริมฝั่ง หลายคนจึงเคลื่อนย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาไว้บนสะพานหรือที่สูง

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองปัตตานีประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันในค่ำวันนี้ (26 พ.ย.) เพราะเมืองปัตตานี เป็นพื้นที่ปลายน้ำที่ต้องรองรับน้ำจาก จ.ยะลา ก่อนระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทย

รถไฟปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายใต้ ชั่วคราว
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ยะลา ทำให้ทางรถไฟได้รับความเสียหาย ระหว่างสถานีไม้แก่น-รามัน ที่ กม.1055/3-4 การรถไฟฯ จึงขอปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายใต้ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ดังนี้

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
เที่ยวไป จำนวน 7 ขบวน เช่น ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่, ขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพอภิวัฒน์-ยะลา ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานียะลา เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่, ขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่ ส่วนเที่ยวกลับ จำนวน 6 ขบวน เช่น ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 38 สุไหงโก-ลก-กรุงเทพอภิวัฒน์

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป เที่ยวไป จำนวน 7 ขบวน
-ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานีสุไหงโก-ลก เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่
-ขบวนรถเร็วที่ 169 กรุงเทพอภิวัฒน์-ยะลา ปรับเปลี่ยนปลายทางจากสถานียะลา เป็นสถานีชุมทางหาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]