“บอย ปกรณ์” ลั่นขอตัดขาดผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป

กทม. 14 ต.ค.-“บอย ปกรณ์” ลั่นขอตัดขาดผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป หลังจากนี้อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก ไม่ขอตอบท่าที “บอสพอล” ออกรายการดัง แสดงหรือไม่ เชื่อทุกคนดูออก

เวลา 14.38 น. นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ นักแสดง ให้สัมภาษณ์หลังให้ข้อมูลกับตำรวจ ระบุว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นเท่าไหร่ แต่อาจจะโล่งใจมากขึ้นที่ได้มาชี้แจง ได้เข้าสู่กระบวนการในการตรวจสอบ ซึ่งตนได้ให้การไปตามข้อเท็จจริง และนำเอกสารมายืนยันกับตำรวจ ทั้งเอกสารสัญญาจ้างที่มีการระบุชัดเจนว่าเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งในเอกสารระบุไว้ว่า ค่าจ้างของตนได้มาจากอะไรบ้าง รวมถึงเอกสารยกเลิกสัญญา และมีเอกสารที่ตนนำมาแจ้งความร้องทุกข์กับบริษัท จำพวกสื่อโปรโมทที่นำรูปภาพของตนไปใช้ประชาสัมพันธ์ โดยที่ตนไม่รู้


นายปกรณ์ บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ก็ได้ประกาศผ่านทาง Instagram ส่วนตัว ให้ผู้เสียหายติดต่อผ่านตนเข้ามา จนถึงตอนนี้มีผู้เสียหายติดต่อเข้ามาแล้วกว่า 40 คน ซึ่งตนได้นำรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหายเหล่านี้ส่งให้ทีมของนายกรรชัย กำเนิดพลอย ไปแล้ว เพื่อให้ไปดำเนินการต่อ

นายปกรณ์ ยังยอมรับว่า รู้สึกผิดและเสียใจที่ตนมีส่วนทำให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งวันนี้มีผู้เสียหายบางคนเดินเข้ามาขอบคุณตน แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ารับคำขอบคุณนั้นไว้ไม่ได้ ตนต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษพวกเขา


เมื่อถามว่า วันนี้ นายวรัตน์พล หรือ พอล ผู้ก่อตั้งดิไอคอน กรุ๊ป ไปออกรายการดัง ได้ทราบแล้วหรือไม่ นายปกรณ์ บอกว่า ตนได้ดูบ้างบางช่วง เพราะติดให้ปากคำกับตำรวจ ส่วนจะคิดอย่างไรกับท่าทีของนายวรัตน์พล ที่ร้องไห้กลางรายการ ว่าเป็นการแสดงหรือไม่ นายปกรณ์ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากก้าวล่วง และเราก็ไม่สามารถไปล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจของเขาได้ว่ามาจากใจจริงหรือไม่ แต่เชื่อว่าเขาทำอะไรลงไปก็น่าจะรู้ตัว พร้อมยืนยันว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้คุยกับใคร และไม่มีผู้บริหารในบริษัทคนไหนติดต่อมา รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่มีชื่อเป็นผู้บริหารในบริษัท ก็ไม่ได้คุยกับใครเลย ส่วนท่าทีของนักแสดงคนอื่นๆ ที่เคยเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ตนก็ไม่ขอพูด ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินเองดีกว่า และเชื่อว่าทุกคนคงจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร ขอให้ทุกคนเป็นคนตัดสินดีกว่า

ส่วนที่มีดารา-นักแสดงคนอื่นๆ เริ่มออกมาแสดงตัวว่าเคยร่วมงานกับดิไอคอน กรุ๊ป มองว่ามีหลายคนที่เคยตกอยู่ในสถานะเดียวกับตนที่ทำไปโดยไม่รู้ ถ้าทุกคนได้ออกมาชี้แจงก็คิดว่าน่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้เสียหาย จึงอยากให้ออกมาเข้าสู่กระบวนการดีกว่า

ส่วนที่วันนี้ตนมาแจ้งความกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ตนได้พูดคุยกับตำรวจในการเอาผิดบริษัทที่ปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับโมเดลธุรกิจของบริษัท ทำให้ตนเข้าใจผิด และทำให้ตนมีส่วนร่วมทำให้คนอื่นเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย และหลังจากวันนี้ตำรวจจะประสานนัดหมายตนเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง


นายปกรณ์ ยอมรับว่า เข็ดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อให้เช็กจนรอบคอบแล้ว แต่ก็ยังพลาด ถือเป็นบทเรียนในครั้งถัดไปที่ต้องตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนมากกว่านี้ อะไรที่ใกล้เคียงกับธุรกิจแบบนี้ก็ต้องเลี่ยงไปเลย

ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับนายวรัตน์พล จะถือว่าตัดขาดกันเลยหรือไม่ นายปกรณ์ บอกว่า ถ้าเป็นดารานักแสดง ตนขอไม่ก้าวล่วง และเชื่อว่าทุกคนจะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย แต่ในส่วนของผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ขอพูดตรงนี้ว่า มาถึงตอนนี้ก็เพิ่งรู้ว่าทุกคนทำอะไรลงไป ทุกคนทำอะไรไว้ก็ต้องรู้อยู่แก่ใจว่า สิ่งที่ทุกคนทำมันสบายบนความเดือดร้อนของคนอื่น ซึ่งตนก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเขา แต่ขออย่ามารู้จักกันอีกเลย ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะบังเอิญเจอกันตามงานต่าง ๆ แต่ต่อจากนี้อย่ามายุ่งเกี่ยวอะไรกันอีกเลย ยิ่งตนมารู้ว่าพวกเขาทำอะไรแบบนี้ไว้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การที่ออกมายอมรับว่ามีส่วนทำให้เกิดความเสียหาย กังวลว่าจะถูกหางเลขไปด้วยหรือไม่ นายปกรณ์ เชื่อว่า การที่ตนจะออกมาหรือไม่ออกมาก็ไม่ส่งผลต่อกระบวนการทางกฎหมาย ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด หน้าที่ของตนมีเพียงการออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและช่วยรับผิดชอบในส่วนที่ตนสามารถทำได้

ช่วงท้าย นายปกรณ์ ยังได้ฝากเตือนว่า ในปัจจุบันมีธุรกิจในลักษณะแบบนี้ จึงควรที่จะต้องศึกษาและตรวจดูประวัติให้ดี ซึ่งบางทีอาจจะมีความเกี่ยวข้อง หากรู้สึกว่ามีความใกล้เคียงกับกรณีนี้ ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากให้เลี่ยง อย่ามาเสี่ยงกับอะไรแบบนี้เลย.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]