ชำแหละธุรกิจขายตรงยักษ์ใหญ่-ดาราดังมีเอี่ยว

ธุรกิจขายตรง

กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – ผู้เสียหายลั่น “หมดตัวเพราะขายตรง” แฉธุรกิจขายตรงยักษ์ใหญ่ ชวนลงทุนแต่ทำกำไรไม่ได้จริง พบมีดาราระดับเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยเป็นผู้บริหาร ด้าน ปคบ. เร่งตรวจสอบโมเดลธุรกิจ


สมาชิกผู้ใช้ TikTok คนหนึ่งโพสต์คลิปพูดถึงเครือข่ายธุรกิจออนไลน์ว่าขอเป็นคนเปิดโปงขบวนการนี้เอง พร้อมแฉว่าผู้เสียหายมีมากกว่าคดีทองแม่ตั๊กเสียอีก ใครโดนยิงโฆษณารับสอนเปิดเพจ สอนยิงโฆษณาแบบจับมือทำ 98 บาท หลังจากนั้นใครเข้าไปเรียน สุดท้ายพอเข้าไปเรียนก็ได้เรียนนิดๆ หน่อยๆ จากนั้นจะถูกชักชวนให้ขายคอร์ส ขายสินค้า ซึ่งสินค้าก็ขายไม่ได้ เพราะไม่มีใครซื้อ แต่ได้ความน่าเชื่อถือ เพราะมีดาราดังๆ หลายคนเป็นพรีเซ็นเตอร์

พร้อมกับบอกว่า ผู้เสียหายของตนมาเล่าให้ฟังว่าเปิดบิล 1 ล้านบาท อีกคน 2.2 ล้านบาท อีกคู่หนึ่งเป็นสามีภรรยากัน มีเงินเก็บคนละ 2 แสนกว่าบาท ลงไปทั้งคู่ เงินจมเลย สินค้าขายไม่ได้ ต้องกินเองใช้เอง แต่ยังเปิดคอร์สเรียนทุกวัน เพราะต้องการหาดาวน์ไลน์ ซึ่งเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน คุณดนัยเคยออกมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องนี้ และจนถึงตอนนี้ที่เป็นกระแสดราม่าประเด็นนี้อีก จึงทำคลิปขึ้นมาเล่าให้ฟังโดยเฉพาะออกมาโต้ กลุ่มเซฟบอส


สำหรับดราม่าร้อนระอุโซเชียล กรณีธุรกิจขายของออนไลน์บริษัทดัง ซึ่งเป็นธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เช่น กาแฟ คอลลาเจน และวิตามิน โดยธุรกิจดังกล่าวถูกจับตาในโลกออนไลน์อย่างมากในเรื่องการขาย สตอกสินค้า และถูกโยงไปถึงข่าวต่างๆ มากมาย โดยในเพจดังออกมาเปิดหน้าตานักแสดงที่มีตำแหน่งใหญ่ในบริษัท และยังเปิดของการันตีความสำเร็จเมื่อเปิดบิลครบ 45,000 บาท อาจจะได้ไปล่องเรือยอร์ชพร้อมทอง หรือได้รถหรู และจะมีการโพสต์ภาพของคนที่อ้างว่าประสบความสำเร็จจากธุรกิจนี้ ซื้อบ้าน ซื้อรถด้วยเงิน แต่เมื่อสอบถามอีกด้านเป็นการให้รถไปยืมใช้ พอขายได้ ยอดตก ก็จะริบรถคืน

นอกจากนี้ยังมีภาพการประชุมของผู้บริหารที่มีดาราคุ้นหน้าคุ้นตานั่งร่วมโต๊ะ และคอร์สที่สอนออนไลน์ยังได้รับความนิยมถึงขนาดที่มีพระสงฆ์ไปนั่งเรียนด้วย นอกจากนี้จะมีการสอนบทให้ดาวน์ไลน์ไปเชิญชวนคนอื่นๆ มาสมัครต่อ เป็นสร้างฐานดาวน์ไลน์แบบดาวกระจาย ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี จนทำให้มีคนหลงเชื่อและตกเป็นผู้เสียหายหลายราย

วานนี้ (9 ต.ค.) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ นำนางวิภารัตน์ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย มาเผยเรื่องราวที่ถูกหลอกลงทุนสูญเงิน 500,000 บาท จากบริษัทธุรกิจออนไลน์แห่งนี้ว่า ตนเองเริ่มเข้าเครือข่ายช่วงที่โควิดมาใหม่ๆ ในปี 2563 ไม่มีรายได้ จู่ๆ มีแม่ทีมที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทดังกล่าวขอเพิ่มเพื่อนในเฟซบุ๊ก ตอนแรกสังสัยว่าเป็นใคร เพราะรูปโปรไฟล์มีการถ่ายรูปคู่กับสินค้าเรียงเต็มอยู่ข้างหลัง


แม่ทีมคนนี้มีคำแนะนำให้ตนเข้าเป็นลูกทีม เมื่อฟังก็รู้สึกเชื่อถือและคิดว่าเป็นของแปลกใหม่ เป็นธุรกิจที่สามารถทำเงินได้ดี จึงสมัครจ่าย 2,500 บาท พอสมัครเสร็จแล้วมีการเข้าไปพบกับบุคคลที่เรียกกันว่า “บอส” และพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสินค้า พร้อมพูดถึงประวัติความเป็นมาของตัว “บอส” เอง ยิ่งทำให้น่าเชื่อถือ จึงจ่ายอีก 25,000 บาท เป็นการเพิ่มดีกรีให้ตัวเอง เป็นอีกขั้นหนึ่งของตัวเเทนจำหน่าย และเสียค่าไปเที่ยวกับบริษัทเหมือนการสัมมนาอีก 25,000 บาท รวมทั้งหมดวันนั้นจ่าย 50,000 บาท

ระหว่างที่ตนเองเป็นเครือข่ายก็มีพบเจอกับดาราบ้าง แต่ว่าเข้ามาในลักษณะของพรีเซ็นเตอร์ในการเชิญชวนซื้อสินค้าต่างๆ ของบริษัท จนทำมาประมาณ 5-6 เดือน เริ่มที่จะขายไม่ได้ จึงปรึกษากับแม่ทีมก็ได้คำตอบว่าให้ยิงโฆษณาเพิ่ม และชักชวนคนเข้ามาเป็นเครือข่ายเพิ่มเติมอีก แต่กลับไม่ได้มีการแนะนำวิธีการขายสินค้าเพิ่มเลย จึงมองว่าไม่คุ้มค่ากับที่ลงทุนไปสูญเงินรวมไปกว่า 500,000 บาท

“บอสพอล” โพสต์ปมธุรกิจ ลั่นไม่หนีพร้อม “มอบตัว”
บอสพอล ผู้บริหารบริษัทดังกล่าว ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า สวัสดีทุกท่านครับ ผมขอเรียนชี้แจงผ่านทางช่องทางนี้นะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจขายปลีก-ขายส่งผ่านระบบตัวแทนภายใต้มาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า…ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใสมาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล ปรากฏมีหลายเคสตามที่เกิดดราม่าที่ออกมาต่อว่าด่าทอบริษัท กลับไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของผมแบบที่กล่าวอ้างเลย อันนี้คือประเด็นใหญ่ที่สุดที่ผมเองไม่เคยได้รู้มาก่อนเลยครับ และยังคงสงสัยอยู่ว่าถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วทำไมถึงไม่มีใครในองค์กรรู้มาก่อนบ้างเลย

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมคงรู้สึกเสียใจมากและอยากที่จะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ที่สูญเสียอย่างเต็มที่ครับ ขอเพียงท่านติดต่อกลับมาที่บริษัท ส่วนที่ถามว่าทำไมผมถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร ผมขอตอบตรงๆ ว่าเมื่อไตร่ตรองโดยสติแล้ว ผมคิดว่า…ไม่ว่าจะตอบอะไรออกมาในช่วงที่กระแสสังคมเปรียบเหมือนน้ำเชี่ยวจากการรับข้อมูล “ทางเดียว” ในตอนนี้ยิ่งจะเป็นการทำให้สถานการณ์ที่หนักอยู่แล้วหนักยิ่งขึ้น

ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการ เพราะผมเชื่อว่า…เราต่างเป็นสุจริตชนที่อยู่ภายใต้ “กฎหมาย” ไม่ใช่การใช้ “กฎหมู่” หรือกระแสสังคม ในการทำลายกัน ผมพร้อมจะเข้าไปแสดงตัว “มอบตัวกับตำรวจ” ตามที่ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทุกเมื่อ ผมรอพิสูจน์ความจริงอยู่ตรงนี้ ไม่หนีไปไหนแน่นอนครับ!!!”

เปิดของแถมยั่วใจ “ขายตรงดัง” การันตีความสำเร็จ
ขณะที่แฟนเพจชื่อดังอย่าง “อีซ้อขยี้ข่าว” ออกมาระบุถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า “ของแถมยั่วยวนใจ ขายฝันการันตีความสำเร็จ หุ้นส่วนเป็นดาราดัง เป็นใครๆ ก็หลง เปิดบิลครบ 45,000 บาท ได้ทริปเรือยอร์ชพร้อมทอง มากสุดได้รถ BMW เลยทีเดียว เขาบอกห้ามโพสต์ลงโซเชียล

แฉโมเดลธุรกิจขายตรงบังหน้า
ดูโมเดลธุรกิจสุดคลาสสิกที่อาศัยคำว่า “ธุรกิจขายตรง” บังหน้า ผ่านถ้อยคำชวนฝันให้หลงเชื่อว่าจะรวยอย่างนั้นอย่างนี้ เช่นเดียวกับโมเดลการทำธุรกิจ บริษัทเครือข่ายยักษ์ใหญ่ชื่อดัง เริ่มต้นจากการสร้างภาพลักษณ์ให้ดูน่าเชื่อถือ นำคนดัง ดารานักแสดงมากหน้าหลายตา ออกรายการ ยิงโฆษณา เชิญชวนขายคอร์สราคาไม่แพง ไม่ถึงร้อยก็เรียนได้ ขายฝันว่าสามารถพลิกชีวิต พอเหยื่อตกลงมาสมัครเรียนก็สอนความรู้พื้นฐานทั่วไปที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว ปิดท้ายด้วยการ “เปิดบิล” ให้สตอกสินค้า หากใครไม่มีทุนก็ขายฝันต่างๆ นานา ให้ไปยืม แม้แต่ไปกู้เพื่อมาลงทุนกับเรา

ข้อมูลจากสมาคมการขายตรงไทย-TDSA ให้คำอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่มีหลายข้อ แต่หลักๆ “ธุรกิจขายตรงที่ดี” จะสร้างความยั่งยืนให้กับนักขายและลูกค้า แต่ “แชร์ลูกโซ่” กลับมักสร้างความเสียหายให้กับผู้บริโภค ซึ่งใครที่จะตัดสินใจเข้าร่วมต้องศึกษาโมเดลธุรกิจให้ถ่องแท้ เพื่อไม่ให้พลาดตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ โดยลักษณะของธุรกิจขายตรง ค่าสมัครเหมาะสมและอาจมีเอกสารหรือสินค้าตัวอย่าง มีการรับประกันสินค้าและรับซื้อคืนเมื่อนักขายตรงต้องการลาออก ไม่มีนโยบายกักตุนสินค้าจำนวนมากๆ แผนการจ่ายผลตอบแทนเป็นไปได้จริง รายได้หลักต้องมาจากการขายสินค้าไม่ใช่การระดมเงินทุน

ขณะเดียวกันลักษณะของแชร์ลูกโซ่ ค่าสมัครสูง เป็นการระดมทุน เน้นการกักตุนสินค้า สินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่รับประกันและไม่รับคืนสินค้า รายได้หลักมาจากการระดมทุนหรือใช้เงินซื้อตำแหน่ง เป็นธุรกิจระยะสั้น บริษัทไม่มีความมั่นคง

ปคบ.เร่งตรวจสอบโมเดลธุรกิจบริษัทดัง
พันตำรวจเอก อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจได้รับทราบกระแสข่าวทางโซเชีลยมีเดียว่ามีผู้ที่ได้รับความเสียหายจำนวนมากจากการร่วมธุรกิจเครือข่ายชื่อดังยักษ์ใหญ่ที่มีดาราแถวหน้าของเมืองไทยเป็นผู้บริหารแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบพฤติการณ์โมเดลธุรกิจดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดที่เกี่ยวข้องกับ บก.ปคบ. หรือไม่ โดยขอตรวจสอบรายละเอียดการทำธุรกิจก่อน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายรายใดเข้าแจ้งความ

ขณะที่พลตำรวจโท นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังจับตาประเด็นดังกล่าวอยู่ หากมีผู้เสียหายประสงค์จะแจ้งความร้องทุกข์คดีที่เกี่ยวข้องกับการขายตรงลักษณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมรับดำเนินการ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ บทลงโทษของการชักชวนคนมาลงทุนแล้วไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับ 50,000-1,000,000 บาท และมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่วันนี้ (10 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ทนายเดชาจะพาผู้เสียหาย 40 คน ไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เกี่ยวกับคดีของบริษัทแห่งหนึ่งที่ต้องสงสัยว่ากลายพันธุ์จากบริษัทขายตรงแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรง และอาจผิดตามข้อหากู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]