คพ. เฝ้าระวังผลกระทบแคดเมียม จนกว่าฝังกลบแล้วเสร็จ

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.-อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เผยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกรณีการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสี จ.สมุทรสาคร ยังไม่พบปนเปื้อน โดยจะเฝ้าระวังต่อเนื่องระหว่างรอกระทรวงอุตสาหกรรมและจังหวัดสมุทรสาคร กำหนดแผนขนย้ายไปฝังกลบที่ จ. ตาก พร้อมให้คำแนะนำในการขนย้ายเพื่อความปลอดภัย

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกรณีการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสี จากบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนต์ (มหาชน) (ชื่อเดิม บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด) มายัง บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ซึ่งประกอบกิจการหล่อและหลอมอะลูมิเนียมแท่ง อะลูมิเนียมเม็ดจากเศษอะลูมิเนียมและตะกรันอะลูมิเนียม (Scrap and Dross) จังหวัดสมุทรสาคร


ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษเข้าร่วมตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567 โดยเก็บตัวอย่างกากแร่แคดเมียมและสังกะสีและตัวอย่างคุณภาพสิ่งแวดล้อมตรวจสอบได้แก่

  • กากแคดเมียมและสังกะสี
  • ดินภายในโรงงาน (ในโรงหลอมและนอกโรงหลอม)
  • เถ้าจากระบบบำบัดอากาศจากการหลอม
  • ดินบริเวณนอกโรงงาน
  • ไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ
  • น้ำทิ้ง

ผลการตรวจวัดในเบื้องต้นพบดังนี้


  • กากแคดเมียมและสังกะสี มีปริมาณแคดเมียม 24,884 มก./กก. ซึ่งถือเป็นของเสียอันตรายเนื่องจากมีปริมาณวัสดุเจือปนแคดเมียมสูงเกิน 100 มก./กก. (ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566)
  • ดินในโรงหลอม พบปริมาณแคดเมียม 7,159 มก./กก. ดินภายในโรงงานนอกโรงหลอม พบปริมาณแคดเมียม 31,584 มก./กก. และดินหน้ารั้วโรงงาน พบปริมาณแคดเมียม 2,838 มก./กก. ซึ่งทั้ง 3 จุด พบว่าสูงเกินเกณฑ์การปนเปื้อนในดินภายในโรงงาน (เกณฑ์การปนเปื้อนในดินภายในโรงงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดเกณฑ์การปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินฯ พ.ศ. 2559 ต้องไม่เกิน 810 มก./กก.) –
  • เถ้าจากระบบบำบัดอากาศจากการหลอม ตรวจไม่พบแคดเมียม
  • ดินบริเวณชุมชนด้านเหนือลมและท้ายลมในระยะ 10 เมตร ตรวจไม่พบปริมาณแคดเมียม
  • ตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ

ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างน้ำ 3 จุด ได้แก่ 1) รางระบายน้ำหน้าโรงหลอม 2) รางระบายน้ำหน้าอาคารสำนักงาน และ 3) คลองธรรมชาติซึ่งจะต้องนำเข้าตรวจในห้องปฏิบัติการซึ่งจะได้เร่งรัดผลโดยเร็ว

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 3 (พิษณุโลก) สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 (นครปฐม) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร (ทสจ.สมุทรสาคร) และจังหวัดตาก (ทสจ.ตาก) เพื่อติดตามความก้าวหน้าและซักซ้อมเตรียมการให้การสนับสนุนทางเทคนิคในการวางแผนขนย้ายกากของเสียจากจังหวัดสมุทรสาครกลับมาฝังกลบแบบปลอดภัย ณ จังหวัดตากรวม 7 ประการประกอบด้วย

1) จากการตรวจพบแคดเมียมในดินหน้ารั้วโรงงานบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งอาจจะติดไปกับล้อรถขนส่งได้ จึงมีข้อเสนอให้ มีการดูดฝุ่นและจัดเก็บดินปนเปื้อนเพื่อไปกำจัดอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ได้หยุดประกอบกิจการชั่วคราวตามคำสั่งของอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และไม่มีคนงานเข้าไปทำงานแล้ว
2) คนงานที่ปฏิบัติงานในโรงงาน บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร รวม 19 ราย เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ได้รับการเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจสอบแล้ว 11 ราย เหลืออีก 8 ราย ซึ่งจะมีการเก็บปัสสาวะเพิ่มเติมในวันที่ 9 เมษายน 2567
3) ทสจ. สมุทรสาครได้ขอความรู้เรื่องการพิจารณาการปนเปื้อนของกากของเสียในสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครต่อไป
4) จากข้อเสนอให้มีการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสีกลับมาฝังกลบแบบปลอดภัย ณ หลุมฝังกลบเดิม จังหวัดตาก นั้น มีข้อห่วงกังวลด้านโครงสร้างทางวิศวกรรมของหลุมฝังกลบเนื่องจากมีการเปิดหลุมและใช้เครื่องมือหนักในการขุดกากแคดเมียมและสังกะสีออกไป จึงเสนอให้มีการตรวจสอบโครงสร้างทางวิศวกรรมดังกล่าวว่า มีความพร้อมในการดำเนินการฝังกลบแบบปลอดภัยอีกครั้งได้หรือไม่ อีกทั้งหากยังไม่มีความพร้อมควรดำเนินการจัดเตรียมอาคารจัดเก็บชั่วคราวอย่างไร หรือควรจัดเก็บไว้ในโกดัง บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ไปพลางก่อน เนื่องจากอาคารโกดังของบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) จังหวัดตาก ได้รับการรื้อถอนหมดนานแล้ว
5) กรณีกากที่จะนำไปฝังกลบต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของกากของเสีย (TTLC/STLC) และอื่นๆ ในห้องปฏิบัติการ เพื่อประกอบการพิจารณาว่าต้องมีการดำเนินการบำบัดกากของเสียก่อนฝังกลบตามหลักเกณฑ์การฝังกลบแบบปลอดภัยอีกครั้งหนึ่งด้วยหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ในระยะเวลาในการเตรียมการข้อ 2 และการตรวจคุณสมบัติกากเช่นว่านี้ อาจต้องใช้เวลาไม่สามารถดำเนินการรองรับการขนขนย้ายกากของเสียให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครกำหนดไว้ได้
6) การพิจารณาข้อจำกัดด้านความพร้อมด้านอุปกรณ์เครื่องมือในการติดตามตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดตากและ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 3 (พิษณุโลก) รวมทั้งจังหวัดเส้นทางขนส่งที่มีระยะทางค่อนข้างไกลจากจังหวัดสมุทรสาครและ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 (นครปฐม) ในพื้นที่รับผิดชอบเกี่ยวข้อง อาจไม่เพียงพอรองรับการเฝ้าระวังผลกระทบคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในการดำเนินการขนย้ายกากดังกล่าว
7) เมื่อพิจารณาประเมินความพร้อมและความเป็นไปได้ตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้นแล้วอาจมีความเสี่ยงในการดำเนินการและอาจล่าช้าไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด อาจต้องพิจารณาทางเลือกในการฝังกลบที่สถานกำจัดกากของเสียอื่นในจังหวัดสมุทรสาครหรือจังหวัดอื่นที่ใกล้เคียง เพื่อลดความเสี่ยงจากการขนย้ายกากแคดเมียมและสังกะสีซึ่งมีปริมาณมาก


กรมควบคุมมลพิษได้ฝากประเด็นข้อพิจารณาต่างๆ ดังนี้นี้ ตามข้อ 4 – 7 ให้ ทสจ.ตาก และสมุทรสาคร นำเรียนปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อหารือร่วมกันประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับทางเลือกในการกำจัดกากที่กองเก็บอยู่ภายในโรงงานดังกล่าว

สำหรับผลการตรวจสอบตัวอย่างดินบริเวณรอบโรงงานซึ่งขยายรัศมีการเก็บตัวอย่างจากเดิมในระยะไม่เกิน 10 เมตร ไปจนถึงระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร ตรวจไม่พบการปนเปื้อนของแคดเมียม ยกเว้นบริเวณหน้ารั้วโรงงาน พบแคดเมียมในระดับ 3,430 มก./กก. (สูงเกินเกณฑ์การปนเปื้อนในดินภายในโรงงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดเกณฑ์การปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินฯ พ.ศ. 2559 ต้องไม่เกิน 810 มก./กก.)

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษเฝ้าระวังผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้มีคำสั่งปิดพื้นที่ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีพบสารแคดเมียมกว่า 15,000 ตัน ในจังหวัดสมุทรสาคร ว่า ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนกากแคดเมียมและกากสังกะสี ซึ่งผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ในสถานะแข็งตัวและเสถียร หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเน้นย้ำให้กรมควบคุมมลพิษให้เก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบหาสารปนเปื้อนทั้งในโรงงาน ในอากาศ และแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อรายงานผลให้ประชาชนรับทราบโดยด่วน เพราะหากใช้เวลานานเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนได้ นอกจากนี้สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิตในช่วงนี้ด้วย

ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษต้องร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการให้คำแนะนำ ปรึกษา ในด้านวิชาการ ช่วยดูแลการขนย้ายและเก็บรักษาแคดเมียมให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด โดยจะมีการตั้งคณะทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดูแลเรื่องนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และยังได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบโรงงานถลุงแร่ว่ามีการจัดทำ EIA และได้ปฏิบัติตามมาตรการ EIA ที่กำหนดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพแวดล้อมมีสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยเคร่งครัด รวมถึงค่าการฟื้นฟูบริษัทต้องรับผิดชอบตามหลักผู้ก่อมลพิษ หรืออาจจะต้องถูกยึดใบอนุญาตประกอบกิจการจากหน่วยงานที่ให้อนุญาตด้วย.- 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

สีฐานเฟสติวัล สุดยอดเทศกาลลอยกระทง จ.ขอนแก่น

บรรยากาศงานลอยกระทง จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะภายในบึงสีฐาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น คึกคัก มีประชาชนเดินทางมาร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง

“ยี่เป็งเชียงใหม่” คึกคัก นักท่องเที่ยวแน่น

บรรยากาศริมฝั่งลำน้ำปิง บริเวณหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ คึกคักไปด้วยชาวเชียงใหม่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่มาลอยกระทงกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว คู่รัก หรือบางคนฉายเดี่ยว และยังเน้นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก

คึกคัก ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณฯ

เริ่มแล้ว งานลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่วัดอรุณราชวราราม ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมคึกคัก มีการแสดงและกิจกรรมต่างๆ มากมาย