เชียงใหม่ 11 ม.ค.- นายกฯ ชื่นชมทีมไทยแลนด์เตรียมคุยเพื่อนบ้านแก้ปัญหาฝุ่นและไฟป่า เผยร่าง กม.อากาศสะอาดฯ ฉบับก้าวไกล เซ็นแล้ว เชื่อเข้าสภาฯ ทันวันนี้ ชี้เชียงใหม่ควรมีรถไฟฟ้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมเรื่องป้องกันไฟป่า รวมถึงการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่โดยรวม โดยก่อนเข้าประชุมได้มีเรื่องด่วน คือ มีการเซ็นร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ให้กับพรรคคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรทันวันนี้ (11 ม.ค.)
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การประชุมวันนี้เป็นการติดตามหลังลงพื้นที่เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมด้วย ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเรื่องแรกที่มีการพูดถึง คือ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าจุดความร้อนลดลง โดยช่วงเวลาเดียวกันจาก 50 กว่า เหลือ 10 กว่า ซึ่งถือเป็นหมายในการเริ่มต้นปีที่ดี แสดงว่าการที่เราลงพื้นที่ร่วมมือทำงานแบบบูรณาการ โดยมีหัวหน้าทีมผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ในการประสานทุกภาคส่วน จึงทำให้ค่าฝุ่นลดลงอย่างมีนัย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับด้านคมนาคม ในจังหวัดเชียงใหม่ ด้านถนนแบ่งเป็นสามวงแหวน วงแหวนหนึ่งสร้างมานานแล้ว แต่ยังไม่ครบ ขาดช่วงหนึ่งที่ไม่มาก แต่กระทรวงคมนาคมก็มีแผนงานที่จะทำให้ครบโดยเร็ว ซึ่งเหลือพื้นที่ไม่กี่กิโลเมตร เพียงต้องการการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพอากาศ โดยตนจะกลับไปพูดคุยกับกองทัพอากาศ โดยขอร้องให้ผู้บัญชาการทหารอากาศ ประสานทำการจราจรทางอากาศให้ครบ เพื่อลดการจราจรที่ติดขัดทางอากาศ ขณะเดียวกันก็จะทำให้ฝุ่น PM 2.5 ลดลงด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงวงแหวนส่วนที่สอง เป็นการยกระดับเหนือชลประทาน และวงแหวนส่วนสามจะทำให้การจราจรสะดวกขึ้น
“เรื่องที่ควบคู่กันไปจะมีการทำเรื่องของรถไฟฟ้า อันนี้สำคัญมาก เพราะเราทราบกันดี นักท่องเที่ยวเชียงใหม่เยอะ และเมื่อเวลานักท่องเที่ยวมาก็ไม่ได้ขับรถ การจราจรอาจจะติดขัด ฉะนั้นหากมีรถไฟฟ้า และในกรุงเทพฯ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว ทุกอย่างสะดวกสบายขึ้น ดังนั้น หากมีการท่องเที่ยวก็จะสะดวกสบายมากขึ้น และเมื่อวงแหวนครบลูป ก็จะทำเรื่องของรถไฟฟ้า เพราะระหว่างการทำรถไฟฟ้า การจราจรก็จะไม่ติดขัด เนื่องจากสามวงแหวนได้เสร็จแล้ว เมืองใหญ่รถไฟฟ้ามีนัย เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ ติด 10 อุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรม ผมเชื่อว่าเมืองใหญ่ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ ถ้าไม่มีรถไฟ รถไฟฟ้าไม่ได้ ผมคิดว่าต้องมี จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายและกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายความแออัดในเมืองออกไปชานเมืองได้ สำคัญกว่านั้นอากาศสะอาด เพราะไม่ได้ใช้รถยนต์ และเป็นการใช้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมนโยบายของรัฐบาล ลดค่าฝุ่น 2.5” นายเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า เรื่องการสร้างรถไฟฟ้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางกระทรวงคมนาคมได้เริ่มศึกษาแนวทางและมีแผนแล้ว เชื่อว่าหลังนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมีการแถลงรายละเอียด ส่วนเรื่องกรอบในการดำเนินการก่อสร้าง ต้องรอให้การก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเชียงใหม่แล้วเสร็จก่อน เพราะหากทำควบคู่กันยิ่งจะกระทบต่อการคมนาคม
ส่วนเรื่องการปรับปรุงท่าอากาศยาน ที่จะเริ่มต้นภายในปีนี้ โดยมีการขยายพื้นที่ตกแต่งใหม่ให้ทันสมัย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายสิบล้านคน ตรงนี้เป็นอะไรที่สามารถทำได้เลย ส่วนระยะยาวจะมีการสร้างสนามบินแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในฮับการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนเรื่องการเผาป่า นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ดูแลกันได้ดีมาก จึงทำให้จุดความร้อนลดลง แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียว โดยมีประเทศเพื่อนบ้านทางกัมพูชา รวมถึง สปป ลาว เมียนมา โดยเมียนมากับลาว ปัญหาน่าจะมาหนักประมาณเดือนมีนาคมและเมษายน จึงต้องอาศัยการพูดคุยของกระทรวงการต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับ สปป ลาว เรามีความสัมพันธ์ที่ดี จึงเป็นไปด้วยดี แต่ทางเมียนมาค่อนข้างจะซับซ้อนหน่อย แต่ยังมีระยะเวลาอีกประมาณเดือนครึ่ง โดยจะให้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงการเผาป่าจากชายแดนเมียนมาก็เป็นปัญหาสำคัญ
“สำคัญกว่านั้น เดือนนี้และเดือนหน้าเป็นฤดูเผาป่าของทางด้านกัมพูชา เห็นได้จากแผนที่ ที่โชว์ค่าจุดความร้อน ซึ่งวันนี้ตนจะนำข้อมูลมาดู และช่วงบ่ายนี้จะยกหูคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดี และท่านเองก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องนี้พอสมควร” นายเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรื่องทรัพยากรในการดูแลไฟป่า ยังเป็นประเด็นสำคัญที่มีงบประมาณขาดแคลนจากกรมฝนหลวงฯ ซึ่งตนได้ทราบนโยบาย โดยจะต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง บูรณาการอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องใช้เวลา เพราะการจะสั่งซื้อเครื่องบินหรืออะไร ต้องใช้ระยะเวลา 1-2 ปี เป็นต้นไป
“แต่ในปัจจุบันได้มีการพูดคุยและขอร้องให้แม่ทัพภาคที่ 3 ดูแลพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารอากาศ หากมีเครื่องบินหรืออุปกรณ์ที่อาจจะยังไม่ได้ใช้ หรือใช้น้อย ให้เราปรับปรุงนิดหน่อยแล้วนำมาใช้ได้ ในแง่ของการปล่อยน้ำ หรือทำฝนหลวงได้หรือไม่ เพราะหากช่วยเหลือกันได้ก็จะเป็นการทำงานที่ครบวงจร เป็นการทำงานทีมไทยแลนด์อย่างแท้จริง กอ.รมน. ก็สามารถช่วยได้อยู่แล้ว เพราะทำอยู่แล้วในแง่ของไฟป่า” นายเศรษฐา กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย