นครปฐม 15 ก.ย. – “บิ๊กโจ๊ก” แถลงพร้อมเปิดภาพวงจรปิดบางส่วนในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ในคืนเกิดเหตุยิง “สารวัตรแบงค์” เห็นชัดใครช่วยไม่ช่วย ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า และตำรวจในงานส่วนใหญ่มีปืน นายตำรวจระดับสูงเผ่นแน่บ
เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาดูกล้องวงจรอีก 2 ตัว จาก 15 ตัว ภายในบ้านของกำนันนก ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยใช้เวลาดูประมาณ 30 นาที ก่อนนำภาพกล้องวงจรปิดบางส่วนในที่เกิดเหตุช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุมาเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้ดู
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ภาพที่ได้กล้องวงจรปิดให้ดู ภาพแรก เป็นภาพขณะตำรวจ 3 นาย คือ ด.ต.สราวุธ , ด.ต.ชนาณัฐ และ พ.ต.ต.ณรงค์ อุ้มร่างสารวัตรศิว หลังถูกยิงบาดเจ็บขึ้นรถ โดยมีพลขับวิ่งไปนำรถเก๋งและพาสารวัตรศิว นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ส่วน ตร.อีกคนนั่งเบาะหลังคอยเอามืออุดบาดแผลจากรอยกระสุน ขับพาไปโรงพยาบาล จากนั้นเป็นภาพหลังจากสารวัตรวศิน ถูกยิง จากนั้นสารวัตรอำนวยการไปช่วยสารวัตรวศิน ที่ล้มอยู่ แล้วมี ตร.อีก 4 นาย คือ ด.ต.สราวุธ , พ.ต.ต.ณรงค์ , ร.ต.ท.จตุรวิทย์ และ พ.ต.ท.ภทร ช่วยพาขึ้นรถกระบะ รวมทั้งมี ผกก.เบิ้ม อยู่ด้วย
ส่วนอีกภาพ เป็นช่วยก่อนเกิดเหตุตอน 2 ทุ่มกว่า นายหน่อง อยู่ในงาน ในกระเป๋ากางเกงมีปืนที่ใช้ก่อเหตุ
อีกภาพเป็นเวลาประมาณ 19.40 น. นายเด้ง ญาติของกำนันนก กับ นายต๋อง เดินเข้ามาในงาน และมีภาพส่งปืนให้นายเด้งเข้าไปในงานด้วย หลังมือปืนลั่นไก นายเด้ง ชักปืนออกมา ลักษณะปกป้องกำนัน
จากนั้นเป็นภาพ 1 ใน 6 ตร.ที่ถูกจับในชุดแรก ถอดเสื้อ โดยมีปืนเหน็บไว้ที่เอว หลังอ้างว่าไม่มีปืน อีกคนก็มีปืนพกไว้ที่เอวเช่นเดียวกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ภาพแรกสิ่งที่สังคมสงสัยตำรวจคนให้การเท็จ จะเห็นว่าคนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมีแค่นี้ ที่ให้การว่าช่วย ก็ไม่ได้ช่วย คำให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ส่วนการดำเนินคดีจะร่วมกันพิจารณาแจ้งข้อหาให้การเท็จ ว่ามีตำรวจนายบ้างที่ต้องถูกแจ้งข้อหานี้
วันนี้ ดำเนินคดีนายเด้ง กับนายต๋อง ในกรณีพกปืน นายต๋องเอาปืนมาให้นายเด้ง โดนแจ้งข้อหาไปแล้วทั้งคู่ และวันนี้ได้ดูกล้องทั้งหมด สิ่งที่สังคมคาใจใครช่วย-ไม่ช่วยบ้างตำรวจในงานส่วนใหญ่มีปืน แต่ไม่ช่วย ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า เตรียมดำเนินคดี หลังเกิดเหตุแล้วตำรวจกลับไปช่วยผู้กระทำผิด แทนที่จะอยู่ข้างตำรวจช่วยตำรวจ กลับไปช่วยผู้กระทำผิด ส่วนนายตำรวจระดับสูงเผ่นแน่บ แล้วบอกว่าไปช่วย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเลย แบบนี้แย่มาก จะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย
ส่วนกล้อง 2 กล้องที่สับสนกันตั้งแต่เช้า เพิ่งได้ข้อเท็จจริง ที่กู้ได้ 100% มีแค่ 13 ตัว ส่วนกล้องอีก 2 ตัว ตัวแรก กล้องไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. อีกตัวเวลาเดินมาที่ 10.16 น. วันเกิดเหตุ และไม่มีภาพหลังจากนี้ สรุปแล้วไม่มีการดึงปลั๊ก ไม่มีการถอดสาย หลังถอดบอร์ดออกตรวจสอบสรุปแล้ว กำนันนกไปกดสวิตช์ปิดเวลา 10.16 น. เหตุเพราะอาจมีคนมาเตือน ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาจัดสถานที่งานเลี้ยง คาดว่ามีคนไปเตือนเรื่องการจัดงาน กล้องต้องไม่ให้เห็นว่ามีใครมานั่งบ้าง จึงไปปิดกล้อง ทำให้ไม่มีการบันทึกภาพตั้งแต่นั้นมา
เหตุการณ์ยิงในงาน คงไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงแบบนี้ หลังทะเลาะกัน กำนันไปคุยกับนายหน่อง มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากำนันสั่งยิง หลังยิงแล้วลูกน้องกำนันยืนคุมเชิงทุกจุด แต่ตำรวจต่างคนต่างออก ต่างคนต่างทิ้งหน้าที่ ตำรวจบางส่วนเห็นความผิดซึ่งหน้าแต่ไม่จับกุม อันนี้มีความผิดชัดเจน
เดิมทีที่สอบปากคำตำรวจในงานบอกว่าไปส่งคนเจ็บที่ รพ.เป็นสิบคน แต่ความจริงมีแค่ 5 คนเท่านั้น ตามภาพวงจรปิดที่ปรากฏ เป็นสิ่งบ่งบอกว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีใครไปช่วยเลย ต่างคนต่างเอาตัวรอด ส่วนจะแจ้งจ้อหาใครบ้าง พรุ่งนี้พิจารณากัน พยานหลักฐานมัดกำนันนก ตอนนี้มันจบแล้ว หลังจากนี้จะขยายผลต่อ ทั้งความร่ำรวยผิดปกติ เส้นทางการเงินมาจากไหน ต้องตอบให้ได้ และเรื่องธุรกิจ การประมูลงานต่างๆ ทั้ง 1,500 โครงการ มันยิ่งกว่าผิดปกติ ต้องตรวจสอบ ถ้าผิดต้องถูกดำเนินการฟอกเงิน ยึดทรัพย์ รวมถึงดำเนินการเรื่องภาษี
การปิดกล้องต้องตั้งใจปิด คงไม่ได้คิดจะสังหารในตอนนั้น แค่ไม่อยากให้เห็นว่ามีใครบ้างในงาน คาดว่ามีคนเตือน ซึ่ง สารวัตรศิวกร เข้ามาในงานได้แป๊บเดียวก็มีการยิงเกิดขึ้น ในงานลูกน้องกำนันมีปืนหมด ตำรวจก็มีปืน ส่วนนายหน่อง ก็พกปืนตลอด สรุปเป็นความหึกเหิม เป็นความคึกคะนอง
ในงาน นายต๋องส่งปืนให้ นายเด้ง ซึ่งก็รู้แน่ว่าถ้ามีเรื่องต้องมีการใช้อาวุธ คนในงานรู้ว่าลูกพี่มีปัญหากับสารวัตรคนนี้ ถ้ามีปัญหาก็ต้องยิงกัน จึงเตรียมไว้ก่อน วงจรปิดมีมากกว่านี้ ก่อนยิงมีการเคลียร์กัน โดยพาคนแก่ออกจากงานไปก่อน เปิดทางให้รถเตรียมออก จากนั้นกำนันนกออกมาคุยกับนายหน่อง และกำนันนกส่งสัญญาณให้ยิง
มูลเหตุสำคัญ 1.การขอลูกน้องให้มาทำหน้าที่ จยย.สายตรวจ 2.มีปัญหาเรื้อรัง สารวัตรศิวกร เข้ามาปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทำให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งไม่ได้ ทำให้กำไรน้อยลง เป็นมูลเหตุให้มีการลุแก่อำนาจ ใช้ปืนสั่งยิง มูลเหตุมาจากเรื่องนี้
ส่วนปัญหาเรื่องการดวลเหล้านั้น มีการดวลเหล้ากัน ระหว่างสารวัตรศิวกร กับกำนันนก เรื่องดวลเหล้าเป็นแค่ส่วนเดียว เรื่องหลักเป็นเรื่องการไม่พอใจ สารวัตรคนนี้อยู่แล้ว เพราะทำให้รถเขาวิ่งลำบาก และเรื่องย้ายลูกน้อง รวมถึงการดวลเหล้า ซึ่งสารวัตรศิวกร ไปบ้านนี้ครั้งแรก ผกก.เบิ้ม ชวนไป เพื่อให้รู้จักมักคุ้นกับกำนัน เพราะตัวเองก็สนิทอยู่แล้ว. -สำนักข่าวไทย