กทม. 16 ก.ค.-รองโฆษก ตร. เตือนแอปฯ ดูดเงินระบาดหนัก “เผลอกดอาจหมดตัว” เผย 3 อุบายโจรออนไลน์ใช้ดูดเงินหมดบัญชี
พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยอุบายของโจรออนไลน์ที่ใช้หลอกลวงประชาชนให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ และทำการดูดเงินในบัญชี
พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน มีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกให้ติดตั้งแอปฯดูดเงินเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง จึงขอประชาสัมพันธ์เน้นย้ำถึงวิธีการของโจรออนไลน์ ที่จะทำการติดต่อประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โทรศัพท์ ไลน์ หรือการส่งข้อความสั้น (SMS) แนบลิงก์ เพื่อหลอกให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์และทำการดูดเงินในบัญชี โดยใช้อุบายดังต่อไปนี้
- หลอกว่าเป็นหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมที่ดิน (อ้างว่าสำรวจผู้เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) สรรพกร (อ้างคืนภาษีหรือตรวจสอบภาษีประจำปี) และการไฟฟ้า/การประปา (อ้างโอนค่าบริการส่วนเกินคืนหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ฟรี) เป็นต้น โดยโจรออนไลน์จะทำการติดต่อประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ และแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน ภาครัฐ ส่งเอกสารราชการปลอมเพิ่มความน่าเชื่อถือ และพูดจาหว่านล้อมให้ประชาชนหลงเชื่อกดลิงก์เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันปลอมที่คล้ายกับของจริง นำไปสู่การติดตั้งแอปฯดูดเงิน
- หลอกว่าเป็นหน่วยงานภาคเอกชน เช่น สายการบิน และ บริษัทขายอุปกรณ์ไอทีชื่อดัง โดยมิจฉาชีพจะส่งข้อความถึงประชาชน หรือโพสต์โฆษณาทางสื่อสังคมออนไลน์ และอ้างอุบายที่ดึงดูดความสนใจ อาทิ ได้รับตั๋วเครื่องบินฟรี เป็นผู้โชคดีได้ของขวัญ/ของรางวัล หรือ มีโปรโมชั่นลดราคาสินค้า เมื่อประชาชนหลงเชื่อกดลิงก์ก็จะถูกดูดเงินจนหมดบัญชี
- หลอกให้เกิดความสงสัย โดยมิจฉาชีพจะส่งข้อความถึงประชาชนในเชิงหาเรื่อง ทำให้เกิดความสงสัย กระวนกระวายใจ เช่น “เธอทำแบบนี้กับเราได้อย่างไร” “ไม่รู้ตัวเหรอว่ามีคลิปหลุด” “ทำตัวแบบนี้ น่าโดนประจานให้อาย” แล้วโจรออนไลน์จะส่งลิงก์มาให้เพื่อกดดู เมื่อหลงเชื่อกดเข้าไป อาจถูกดูดเงินจนหมดบัญชี
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนรับข้อมูลอย่างมีสติ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้จัดทำแบบทดสอบ Cyber Vaccine จำนวน 40 ข้อ เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไซเบอร์ให้กับประชาชน ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ที่ www.เตือนภัยออนไลน์.com และ เพจเฟซบุ๊ก “เตือนภัยออนไลน์” ปรึกษา-ขอคำแนะนำได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-866-3000 โดยผู้เสียหายสามารถติดต่อธนาคารของตนเองเพื่อทำการระงับบัญชี โดยธนาคารจะออก Bank ID ผ่าน SMS และขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจที่ใดก็ได้โดยเร็ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงท้องที่เกิดเหตุภายใน 72 ชั่วโมง หรือแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com.-สำนักข่าวไทย