เจ้าของบ้านเก่าคลั่งยิงเจ้าของบ้านใหม่ดับกลางหมู่บ้าน จ.ปทุมธานี

ปทุมธานี 30 พ.ค. – หญิงวัย 52 ปี ซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี แต่เจ้าของบ้านเก่าไม่ยอมย้ายออก เจรจาไม่เป็นผล ก่อเหตุยิงเจ้าของบ้านคนใหม่เสียชีวิตกลางหมู่บ้านใน จ.ปทุมธานี


เกิดเหตุยิงกันที่หมู่บ้านกรีน ถนนรังสิต-นครนายก ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้เสียชีวิตคือ นางสาวกมลพร อายุ 52 ปี โดยผู้ตายมากับหลานสาว ชื่อนางสาวศรสวรรค์ อายุ 26 ปี มาดูบ้านที่เกิดเหตุที่ซื้อมาจากกรมบังคับคดีเมื่อต้นปี 65 โดยแจ้งเจ้าของบ้านเดิมให้ย้ายออกและมีการผลัดผ่อนมาหลายครั้งจนเลยเวลาที่กำหนดไว้ ผู้ตายจึงมาทวงถามกับเจ้าของบ้านเดิมให้ออกไปและได้เข้ามาตัดต้นไม้ที่ขึ้นรกเต็มบ้านออก ทำให้เจ้าของบ้านเดิมคือ นายเดชา เกิดความเครียด จึงใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดกระหน่ำยิงเจ้าของบ้านคนใหม่วิ่งหนีและเสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมบ้านไว้ และบอกให้มือปืนออกมามอบตัว แต่มือปืนไม่ยอมออกมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมอยู่

นางสาวศรสวรรค์ อายุ 26 ปี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตคือป้าของตน ป้าซื้อบ้านมาหนึ่งปีแล้ว โดยอมาจากกรมบังคับคดี ตนกับป้ามาคุยกับนายเดชาตั้งแต่ซื้อบ้านตอนแรก และถามว่าจะย้ายออกเมื่อไร เราได้ซื้อบ้านคุณไว้แล้วนะ คุณลุงพร้อมวันไหน มีรถไหม ถ้าไม่มีเราจะช่วยขนของออกให้ ผู้ก่อเหตุบอกว่าบ้านหลังนี้เขาซื้อมาจากธนาคาร แต่ธนาคารโกง ถ้าอยากได้ไปฟ้องเอา ตนก็หยุดไปและเว้นช่วง


ต่อมาเข้าไปใหม่ ให้ทนายทำเรื่องฟ้อง และต้องมีหมายจับจากตำรวจ แต่เข้าไปเจรจากับคุณลุงก่อนไปกับลูกสาวคุณป้า คุณลุงยังไม่ออกมาและปิดประตูเงียบ เลยไม่สนใจ คุณลุงจะอยู่ก็อยู่แต่ทางตนและคุณป้าพาคนมาตัดต้นไม้รอบบ้าน พอตัดต้นไม้เสร็จ รอบที่ 3 ก็มาใหม่ โดยได้หมายศาลมาแล้ว คุณป้าก็มากับลูกสาวอีกครั้ง ส่วนพวกตนไม่รู้เลยว่าคุณป้ามาเพราะทุกคนทำงานกันหมด จนเกิดเหตุการณ์ขึ้น น้องที่เป็นลูกสาวของคุณป้าวิ่งไปแอบและโทรมาบอกตน ตนกับญาติๆ รีบขับรถมาหาที่เกิดเหตุ ตนตกใจว่าทำไมลุงถึงมายิงป้าแบบนี้ มีคนแถวนี้บอกว่าได้ยินเสียงปืน 1 นัด แล้วป้าก็วิ่งออกมา ลุงคนดังกล่าวก็เดินออกมายิงซ้ำอีก มีคุณลุงที่ปั่นจักรยานบอกว่าเขายิงทั้งหมด 5 นัด และมาจ่อยิงที่ศีรษะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย