กรุงเทพฯ 18 พ.ค. – นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ เผยมีโอกาสที่ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจะปรับสูงขึ้นถึง 4 บาท/ฟอง เหตุผลผลิตไข่ไก่ลดลงจากสภาพอากาศที่ร้อนต่อเนื่อง หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทุกอย่าง พร้อมกันนี้หารือใกล้ชิดกับกรมปศุสัตว์เพื่อเตรียมมาตรการป้องกันภาวะไข่ไก่ขาดแคลนไว้ล่วงหน้าแล้ว
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ กล่าวถึงการที่สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ปรับราคาไข่คละหน้าฟาร์มขึ้น 0.20 บาท/ฟอง จาก 3.60 บาท/ฟอง เป็น 3.80 บาท/ฟอง ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ผลผลิตไข่ไก่ทั้งระบบลดลงประมาณ 5-10% เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด หลายพื้นที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ฟาร์มในบางพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ทำให้แม่ไก่ส่วนหนึ่งตาย ส่วนที่เหลือกินอาหารได้น้อยลง ทำให้ปริมาณไข่ลดลงและขนาดของไข่เล็กลงด้วย โดยสวนทางกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) ประเมินเมื่อปลายปี 2565 ว่า อยู่ที่ฟองละ 3.70 บาท/ฟอง แต่ต้นทุนได้ปรับสูงต่อเนื่อง ทั้งค่าอาหารและค่าไฟฟ้า
หากในระยะอันใกล้นี้ ฝนยังไม่ตกลงมา สภาพอากาศยังร้อนจัด และหลายพื้นที่ยังมีน้ำไม่เพียงพอ ปริมาณไข่ไก่ในระบบจะลดลงอีก อาจส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับขึ้นเป็น 4 บาท/ฟอง
นายมงคล กล่าวว่า ในช่วงต้นปี 2566 จำนวนไก่ไข่ยืนกรงทั่วประเทศมี 52.66 ล้านตัว ประมาณการผลผลิตไข่ไก่ 43.71 ล้านฟอง/วัน ความต้องการบริโภคในประเทศ 42.64 ล้านฟอง/วัน แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันที่แม่ไก่บางส่วนตาย และผลผลิตไข่ไก่ลดลงทั้งจำนวนและขนาดฟอง ทำให้เกิดข้อกังวลว่า ปริมาณไข่ไก่จะไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ แต่สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ได้หารือกับกรมปศุสัตว์อย่างใกล้ชิด ในการกำหนดมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดภาวะไข่ขาดแคลนไว้ล่วงหน้าแล้ว.-สำนักข่าวไทย