“รพี” พบพนักงานสอบสวน ให้ข้อมูลเพิ่ม คดี “แอม”

กทม. 29 เม.ย.-“รพี” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ให้ข้อมูลคดี “แอม” เพิ่ม ลั่นไม่กลัวถูกฟ้อง ทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์ ด้านกองปราบเตรียมเชิญบุคลากรทางแพทย์ที่ “แอม” เคยไปปรึกษา ให้ปากคำเพิ่มพรุ่งนี้

นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานเหยื่อคดีแอม เข้าให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนกอง​ปราบปราม​ในคดีก้อย เหยื่อแอมไซยาไนด์ ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน บริเวณริมน้ำ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยการให้ข้อมูลในวันนี้จะให้ข้อมูลเหตุการณ์ที่ “ก้อย” เสียชีวิต และหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่เห็น “แอม” ขับรถมารับ “ก้อย” ออกจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และรายละเอียดไทม์ไลน์การติดต่อกับ “ส้ม” พี่สาวก้อย หลังจาก “ก้อย” เสียชีวิต


พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับ “แอม” ทั้งหมด 13 ศพ และรอดชีวิต 1 คน ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาบอกว่า มีเหยื่อเชื่อมโยงถึง 20 คน ยังไม่ยืนยัน เพราะเป็นเพียงแค่คำบอกเล่าท่านั้น แต่ในส่วนตัวเตรียมข้อมูลให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในสัปดาห์หน้า โดยอยู่ระหว่างการจรวจสอบรายละเอียด และความชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในจังหวัดนครปฐม 1 คน ส่วนอีก 1 คน ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ทั้งนี้ อยากฝากไปไปถึงกระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังการเสียชีวิตในลักษณะดังกล่าวไปถึงปี 2558 ในกรณีที่เสียชีวิตจากสาเหตุหัวใจล้มเหลว รวมทั้งใบมรณบัตร ที่ระบุสาเหตุการตาย ควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่า จะมีความเชื่อมโยงคดี “แอม” หรือไม่ พร้อมทั้งยังบอกว่า การนำเสนอข้อมูลของตัวเอง เป็นไปด้วยสาธารณประโยชน์ และสังคม ยืนยันไม่กลัวถูกฟ้อง และไม่กังวล


ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เผยถึงความคืบหน้าในคดีนี้ว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญ นายระพี มาสอบปากคำให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาในการรับรู้ข่าวสารของคดี และข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถนำมาประกอบในสำนวนได้ ส่วนในวันพรุ่งนี้ ได้เชิญบุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นคนที่ “แอม” เคยไปปรึกษาถามข้อมูลเกี่ยวกับคนที่มีอาการหัวใจล้มเหลวว่า มีอาการเป็นเช่นไร มาสอบปากคำเพิ่มเติม

ส่วนเรื่องการทำธุรกิจรับจำนำรถของผู้ต้องหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล จากข้อมูลที่ทราบว่าผู้ต้องหาได้นำรถของ “แด้” อดีตสามี ไป แต่ในส่วนของผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนจะมีการออกหมายจับหรือผู้ที่ร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำนำรถยนต์เพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ร้องเรียนเข้ามาในขณะนี้พบว่ามีถึง 18 คน แต่การสืบสวนของตำรวจมีเพียง 14 คน ที่สามารถนำมาประกอบสำนวนได้ ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการสอบถามข้อมูลหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่ามีพฤติกรรมที่สามารถเข้าข่ายตกเป็นเหยื่อผู้เสียหายได้หรือไม่ ยอมรับว่าขณะนี้แนวทางการสืบสวนในคดีที่ทำงานร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 แล้วชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นไปในทิศทางที่ดี และคดีมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน