22 เม.ย.-กระแสการจับขั้วรัฐบาลเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อนแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสูตร “เพื่อไทย” ร่วมรัฐบาลกับ “พลังประชารัฐ”และมี “ภูมิใจไทย” อีกพรรค แต่ล่าสุดคีย์แมนของทั้ง 2 พรรคต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่จับมือกันแน่นอน
ย้อนกลับไปเมื่อคืนวาน (21 เม.ย.) นายเศรษฐา ประกาศบนเวทีปราศรัยที่อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ว่าจะไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะ 2 พรรคนี้มีส่วนร่วมในการทำรัฐประหาร ปล้นอำนาจอธิปไตยประชาชน วันนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวสอบถาม พล.อ.ประวิตร และได้รับคำตอบในลักษณะไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอย่างไร แต่ยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่เคยประกาศว่าจะไปจับมือกับเพื่อไทย” ย้ำแต่เพียงว่าต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง
สำนักข่าวไทย ตรวจสอบจุดยืนการจับขั้วการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าคีย์แมนของหลายพรรคเริ่มแสดงท่าทีที่ชัดเจน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยอีกคนตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว พร้อมกับให้สังเกตสีหน้าเมื่อกล่าวถึงพรรคการเมืองที่เคยทำรัฐประหารมาก่อน
ส่วนท่าทีของพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ให้รายการโทรทัศน์เมื่อ 2 วันก่อน ยืนยันว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้านหากเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และยืนยันว่า “มีลุง…ไม่มีเรา” ส่วนกรณีของพรรคภูมิใจไทย นายพิธา บอกว่าถ้าจำเป็นต้องร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยต้องไม่นั่งกระทรวงสาธารณสุขและคมนาคม
ขณะที่วันนี้ (22 เม.ย) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหลังประชุมพรรคว่า ขณะนี้ยังไม่มีแนวทางที่จะพิจารณาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล จนกว่าจะทราบผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ย้ำว่านายกฯ ที่พรรคจะสนับสนุน ต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมือง
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้แกนนำของพรรคยังไม่ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจน แต่ก่อนหน้านี้หากจำกันได้เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเคยให้สัมภาษณ์ว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่ได้จับอะไรกับใคร ต้องรอดูสถานการณ์ และขึ้นอยู่กับความเห็นของสมาชิกพรรค”
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ มีคำยืนยันชัดเจนจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ว่าจะให้เกียรติเสียงของประชาชน โดยไม่สนับสนุนการไปจับขั้วกันตั้งรัฐบาล เพราะประชาชนยังไม่ได้ลงคะแนนเสียง พร้อมยืนยันพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคการเมืองใด แต่ย้ำว่าพรรคไม่สนับสนุนให้ยกเลิกมาตรา 112.-สำนักข่าวไทย