บึงกาฬ 19 ก.พ. – ผบ.นรข. แถลงข่าวตรวจยึดยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด ร่วมทลายขบวนการ “รถแลกยา” ข้ามแม่น้ำโขง
พลเรือตรี สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ณ สถานีเรือบึงกาฬ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ในด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่สถานีเรือบึงกาฬ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย ภายใต้การอำนวยการของ พลเรือตรี สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) และ นาวาเอก จิรัฏฐ์ ผูกทอง ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย โดย นาวาโท ศิริพงษ์ นพไธสง หัวหน้าสถานีเรือบึงกาฬ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจาก สปป ลาว เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.เรือบึงกาฬ นรข.เขตหนองคาย บริเวณพื้นที่ บ.คำหมื่น ต.ไคสี อ.เมือง จ.บึงกาฬ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ สั่งชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สน.เรือบึงกาฬ วางแผนในการสกัดกั้นและจับกุมร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ วางกำลังพื้นที่ ที่สายข่าวแจ้งและบริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งเวลา 21.10 น. เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง (ด้านใต้ท่าทรายอดิศักดิ์รวี) บ.คำหมื่น ต.ไคสี อ.เมือง จ.บึงกาฬ ใช้กล้องตรวจการณ์กลางคืนตรวจพบเรือกีบ 1 ลำบนเรือ มีกลุ่มบุคคล 4-5 คน นั่งมากับเรือแล่นจากกลางลำแม่น้ำโขงและเข้ามาจอดเทียบฝั่งห่างจุดที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจได้ดักซุ่ม ระยะ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดซุ่มเฝ้าตรวจจึงได้ออกจากจุดซุ่ม
และเคลื่อนตัวเข้าไปเฝ้าสังเกตพฤติกรรมกลุ่มบุคคลดังกล่าว ต่อมาได้มีรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 1 คัน วิ่งเข้ามาตามถนนลูกรังซอยโยธาธิการ นค.2045 มาจอดบริเวณ กระท่อมไม่มีเลขที่ ภายในสวนยางพารา ใกล้กับจุดเรือจอด จากนั้นกลุ่มบุคคลที่มากับเรือได้ช่วยกันลำเลียงวัตถุต้องสงสัยที่บรรทุกมากับเรือขึ้นมาใส่ไว้ในรถยนต์คันดังกล่าว จนท.ชุดซุ่มตรวจได้ใช้วิทยุสื่อสารติดต่อให้ชุดสกัดทางบก นำรถยนต์วิ่งเข้ามาตามถนนลูกรังซอยโยธาธิการ นค.2045 เพื่อสกัดกั้นการหลบหนี และได้ออกจากจุดซุ่มพร้อมกับแสดงตัวเป็น เจ้าหน้าที่ นรข. เพื่อขอทำการตรวจสอบ แต่คนขับเรือไหวตัวทัน จึงขับเรือแล่นกลับไปยังฝั่งประเทศลาว ทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามได้เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน ในขณะเดียวกันคนขับรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวได้ขับรถยนต์ออกไปจากจุดที่จอดอยู่ทันที ต่อมาชุดสกัดทางบกฯ ได้ขับรถยนต์มาตามทางถนนลูกรัง ซอยโยธาธิการ นค.2045 ได้ตรวจพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน สีขาว จอดอยู่ข้างถนนลูกรัง ซอยโยธาธิการ นค.2045 คอกวัวสวนยางพารา บ.คำหมื่น ต.ไคสี อ.เมือง จ.บึงกาฬ ลักษณะดับเครื่องยนต์ไม่เปิดไฟหน้า หันหัวรถออกไปทางถนนทางหลวงหมายเลข 212 ลักษณะต้องสงสัย จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ นรข.เข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบ ไม่พบผู้ขับขี่
คาดว่าจะไหวตัวทันและอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จากการใช้ไฟฉายส่องดูภายในห้องโดยสารด้านหน้ารถพบวัตถุต้องสงสัยสีดำจำนวน 1กระสอบ วางอยู่ที่เบาะนั่งด้านหน้าข้างคนขับ เมื่อเปิดประตูด้านหลังซึ้งไม่ได้ล็อก พบว่ามีวัตถุต้องสงสัยสีดำวางอยู่ 6 กระสอบ รวมทั้งสิ้น 7 กระสอบ เมื่อแกะวัตถุต้องสงสัยสีดำดังกล่าวออกเพื่อตรวจสอบ พบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 3,200,000 เม็ด
ในขณะเดียวกัน เวลา 23.30 น. ที่ท่าทราย บ.ท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ ชุดปฏิบัติการพิเศษ นรข. และชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพเรือ ร่วมกับสถานีเรือบึงกาฬ ได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะ 7 คัน ซึ่งกำลังลักลอบนำออกราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จากการข่าวทราบว่ากลุ่มขบวนการทั้งสองมีความเชื่อมโยงระหว่างกันคาดเป็นกลุ่มขบวนการลักลอบนำรถยนต์ข้ามโขงเพื่อแลกกับยาเสพติดคดีดังกล่าว ส่งพนักงาน สภ.บึงกาฬ ดำเนินการต่อไป .-สำนักข่าวไทย