ผบ.ตร.ยันย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เหตุบกพร่องในหน้าที่

สตช. 31 ม.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวคำขอโทษที่ทำให้ประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ยันไม่เข้าข้างคนผิด ยอมรับย้าย ผกก.สน.ห้วยขวาง เพราะบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนความผิดไม่น่าถึง น.1


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวขอโทษไปยังประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการปฏิหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจมีความตั้งใจจริงในการปฏิบัติหน้าที่และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ สำหรับกรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันและพวกที่ได้รับผลกระทบจากเหตุครั้งนี้ ทางตำรวจได้กำชับให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางนครบาลอาจต้องส่งตำรวจไปสอบปากคำพยานที่ไต้หวันและสิงคโปร์ แต่หากพยานไม่กล้าให้ความร่วมมือ และขอให้ข้อมูลผ่านทางตำรวจสากล ก็ยินดีที่จะรับฟังจากทุกช่องทาง

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ยอมรับข้อกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ (ม.157) แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ (ม.149) ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยคณะกรรมการยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างตรงไปตรงมา ส่วนจะไปถึง ผบช.น. หรือไม่ มองว่าไม่ถึงขนาดนั้น


อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า การสั่งย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวางนั้น เชื่อว่าเป็นเพราะมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่เกิดขึ้น หากการสอบสวนพบว่ามีความผิดชัดเจน ผู้ใต้บังคับบัญชาระดับผู้กำกับและรองสารวัตรก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ขณะที่ช่วงนี้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ก็ต้องมีการวางมาตรการต่าง ๆ และให้ผู้บังคับบัญชากำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติงานอย่างโปร่งใส ซึ่งขณะนี้มีการตั้งงบประมาณจัดซื้อกล้องติดตัวตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตั้งแต่ดำรงตำแหน่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดีอยู่ แต่เชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังมีคนดีอยู่อีกจำนวนมากที่จะปฏิบัติหน้าที่ให้กับประชาชน ผู้ที่ทำดีก็จะได้รับผลตอบแทน ส่วนที่ทำไม่ดีก็จะต้องได้รับการลงโทษอย่างเด็ดขาด ตอนนี้อยากให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมั่นใจกับการปฏิบัติหน้าที่ และจะกำชับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยวให้ปฎิบัติการอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมาด้วย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง