กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาระบุ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น แต่จะกลับมาเย็นอีกครั้งในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนและต่อเนื่องถึงต้นเดือนมี.ค. โดยพบปัจจัยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดปกคลุมประเทศไทยในฤดูหนาว ยังไม่เปลี่ยนทิศ จึงนับเป็นฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวเย็นนาน
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ในวันที่ 30 – 31 มกราคม 2566 มวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ยังแผ่ลงมาปกคลุม แต่เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบน ยังมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดบริเวณยอดภู ยอดดอย กับมีลมแรงบางพื้นที่ แต่ไม่มีฝน ขอให้ประชาชนระวังอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยตอนเช้าอากาศเย็นถึงหนาว กลางวันร้อน อากาศแห้ง รวมถึงให้ระวังอัคคีภัยด้วย
ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะภาคตอนล่าง ยังมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยถึงปานกลางไปถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงต้องเฝ้าระวังฝนตกสะสม
สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยและอันดามัน ยังมีกำลังค่อนข้างแรงถึงแรง ระวังคลื่นซัดฝั่ง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงเดินเรือด้วยความระวัง
ทั้งนี้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ลมเบาลง มีลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้พัดเสริมเข้ามาปกคลุม นำพาความชื้นเข้ามา จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง กทม. และปริมณฑลมีฝนเล็กน้อย
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า อากาศจะกลับมาเย็นอีกครั้งในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์และต่อเนื่องถึงต้นเดือนมีนาคม โดยพบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นลมประจำฤดูหนาวยังไม่เปลี่ยนทิศ จากปกติที่จะพบเริ่มเปลี่ยนทิศประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แม้จะมีลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้พัดเสริมเข้ามาปกคลุมบ้าง แต่การที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือยังไม่เปลี่ยนทิศไป ส่งผลให้ฤดูหนาวนี้ มีอากาศหนาวเย็นนาน.-สำนักข่าวไทย
