ไทยฉีดฮอร์โมนปลาทูกระตุ้นวางไข่สำเร็จครั้งแรกของโลก

กรุงเทพฯ 3 พ.ย.- นักวิจัยกรมประมงประสบความสำเร็จในการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการวางไข่ปลาทูสำเร็จครั้งแรกของโลก ทำให้ไม่ต้องรอฤดูวางไข่ที่มีปีละครั้ง จับมือสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเดินหน้า “โครงการปลาทูคู่ไทย” รวบรวมพ่อแม่พันธุ์มาเพาะเลี้ยงในระบบปิด พร้อมฉีดฮอร์โมน ทำให้สามารถคุมรอบการตกไข่ของปลาทูได้มากขึ้น พบสัญญาณดีปลาทูวางไข่มากถึง 30,000 ฟอง หวังช่วยทดแทนปริมาณการจับปลาทูในธรรมชาติ              


นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้ศึกษาวิจัยเพาะขยายพันธุ์ปลาทูเพื่อลดการใช้ทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติจนประสบความสำเร็จสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จเมื่อปี 2554 แต่ปลาทูเป็นปลาที่มีความอ่อนแอ บอบบาง จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำขึ้นจากทะเลมาเพาะเลี้ยงโดยไม่ให้บอบช้ำหรือตายไปเสียก่อน 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากรมประมงได้รวบรวมข้อมูลทางด้านชีววิทยา ฤดูกาลวางไข่ ลักษณะของนิเวศที่อยู่อาศัย เป็นต้น มาศึกษาวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ด้านงานวิชาการและประยุกต์ใช้ในการผลิตปลาทูทั้งด้านการเพาะเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์และเชิงพาณิชย์ อาทิ การพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ด้วยการให้อาหารที่มีคุณภาพและการใช้ระบบน้ำหมุนเวียน เทคนิคการลำเลียงพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติ  การอนุบาลลูกพันธุ์เพื่อเพิ่มอัตราการรอด เป็นต้น


ปัจจุบันนอกจากการดำเนินงานตามแผนการอนุรักษ์แล้ว กรมประมงยังได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการโครงการ “ปลาทูคู่ไทย” เพื่อจัดการองค์ความรู้สู่การสรุปแบบเบ็ดเสร็จ (one stop) ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของปลาทูไทย ที่จะนำไปสู่การกำหนดแนวทางเชิงนโนบายเพื่อแก้ไขปัญหาปลาทูที่มีโอกาสสูญพันธุ์จากปริมาณการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการประมงและอุตสาหกรรมปลาทูของประเทศ ด้วยการจัดระบบตามห่วงโซ่คุณค่าของทรัพยากรทางทะเล ควบคู่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการจัดการและด้านการเพาะเลี้ยง ซึ่งล่าสุดโครงการได้ดำเนินการโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการเพาะเลี้ยงปลาทูฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่เพื่อเพิ่มโอกาสในการเพาะขยายพันธุ์ปลาทู โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพชรบุรี ได้รวบรวมพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติมาขุนเลี้ยงและทดลองฉีดฮอร์โมนตามรอบที่กำหนดไว้ ซึ่งมีโอกาสได้ลูกปลาทูมากกว่าวิธีตามธรรมชาติที่ปลาทูจะมีฤดูวางไข่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น

สำหรับความท้าทายในการเพาะพันธุ์ปลาทู อยู่ที่การปรับสภาพการเลี้ยงให้คล้ายคลึงกับระบบนิเวศในทะเลและต้องปรับพฤติกรรมปลาให้คุ้นเคยกับทีมนักวิจัย เนื่องจากปลาทูเป็นปลาที่ตื่นตกใจง่ายดังนั้นการจับปลาทูขึ้นมาฉีดฮอร์โมนจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก จึงนับเป็นอีกผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมประมงในการพัฒนาผลงานวิจัยด้านต่างๆ เพื่อช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดความยั่งยืนสืบไป

นายประพัฒน์ กอสวัสดิ์พัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพชรบุรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางศูนย์ฯ ได้รวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาทูธรรมชาติจากโป๊ะในพื้นที่อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี มาขุนเลี้ยงในบ่อผ้าใบด้วยระบบน้ำหมุนเวียนในโรงเพาะให้เกิดความพร้อมในการสืบพันธุ์ด้วยอาหารที่ต่างกัน 2 ชนิด ได้แก่ อาหารเม็ดสำเร็จรูป และอาหารผสมสด เพื่อศึกษาและตรวจสอบความสมบูรณ์เพศ โดยเมื่อเริ่มต้นขุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีไข่และน้ำเชื้ออยู่ในระยะที่ 2 ภายในระยะเวลาการขุนเลี้ยง 3 เดือน พ่อแม่พันธุ์มีน้ำหนักอยู่ในช่วง 134 – 210 กรัม ความยาวอยู่ในช่วง 19- 20 เซนติเมตร ไข่และน้ำเชื้อพัฒนาเป็นระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะที่พร้อมจะฉีดฮอร์โมน จึงนำมาทดลองฉีดฮอร์โมนกระตุ้นให้ปลาวางไข่ที่ระดับความเข้มข้นต่างกัน 3 ระดับ ในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม รวมทั้งสิ้น 6 ครั้ง ได้ไข่ทั้งหมดอยู่ในช่วง 15,833 – 95,833 ฟอง เป็นไข่ดีอยู่ในช่วง 14,978 – 85,003 ฟอง ได้ลูกปลาแรกฟักอยู่ในช่วง 2,250 – 20,000 ตัว คิดเป็น 7.04 – 44.94 % จากไข่ทั้งหมด และ 7.94 – 61.54 % จากไข่ดี และระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนอนุบาลลูกปลาพร้อมวางแผนพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมสำหรับการอนุบาลลูกพันธุ์ปลาทูให้มีอัตราการรอดสูงที่สุด


นับได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกของโลกในการทดลองฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการวางไข่ของปลาทู จากอดีตที่ปล่อยให้พ่อแม่พันธุ์ปลาทูผสมกันเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นความหวังในการเพาะพันธุ์ปลาทูเพื่อปล่อยสู่ทะเลในเชิงอนุรักษ์ หรือการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงปลาทูเชิงพาณิชย์ต่อไป และนอกจากมาตรการที่ช่วยกันดูแลทรัพยากรปลาทู โดยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรปลาทูได้อย่างง่ายๆ คือ ไม่บริโภคปลาที่มีไข่หรือปลาตัวเล็กๆ ปล่อยให้ปลาเหล่านี้ได้เติบโตมาเป็นอาหารในช่วงเวลาที่เหมาะสมและมีมูลค่าที่เศรษฐกิจดีกว่า หากทุกคนช่วยกัน กรมประมงเชื่อมั่นว่า ท้องทะเลและทรัพยากรประมงจะกลับคืนความอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง