ชัยภูมิ 2 ต.ค.-มวลน้ำเขื่อนลำปะทาว ทะลักท่วมตัวเมืองชัยภูมิ อีกระลอก ตั้งแต่บ่ายวานนี้ ล่าสุดระดับน้ำทรงตัวแล้ว รพ.ชัยภูมิ อ่วม ถูกน้ำล้อม ลำบากทั้งบุคลากรและผู้ป่วย ผู้ว่าฯ เผยหากไม่มีฝนตกหนักมาเติม คาดจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 วัน
มวลน้ำจากเขื่อนลำปะทาว ทะลักท่วมตัวเมืองชัยภูมิ อีกระลอก เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โรงพยาบาลชัยภูมิ ถูกน้ำล้อม เจ้าหน้าที่ต้องทำสะพานให้บุคลากรการแพทย์ ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ได้เดินเข้าออกโรงพยาบาลสะดวก พร้อมนำรถบรรทุกรับส่ง 3 จุด
พยาบาลโรงพยาบาลชัยภูมิ บอกว่า ได้รับผลกระทบจากการเดินทาง ที่พักก็อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ทางโรงพยาบาลจึงยืดหยุ่นเวลาเข้างานให้ ยังไม่กระทบการให้บริการทางการแพทย์ เพราะได้ใช้แผ่นพลาสติกปิดประตูทางเข้าออกทั้ง 4 จุด เสริมด้วยกระสอบทรายเป็นแนวพนังกั้นน้ำ มวลน้ำจึงไม่ท่วมในตัวโรงพยาบาล แต่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนคนไข้ และญาติ จะมีปัญหาเรื่องการเดินทางฝ่ากระแสน้ำเข้าไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ประชุมประเมินสถานการณ์ เพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมเปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า วานนี้มีมวลน้ำเข้ามาเกือบ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร วันนี้จะเข้ามาอีก 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ประสิทธิภาพการสูบระบายน้ำทำได้วันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร วานนี้ปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์เขื่อนลำปะทาวเกือบ 70 เซนติเมตร ล่าสุดเหลือไม่ถึง 60 เซนติเมตร ยืนยันว่า ทางจังหวัดรับมือได้ หากไม่มีฝนตกหนักมาเติม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 วัน
ทั้งนี้ ถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองชัยภูมิต่างถูกน้ำท่วมทั้งหมด ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 50 เซนติเมตร หลายจุดสูงเกิน 1 เมตร รอดเป็นช่วงๆ เฉพาะจุดที่มีพื้นที่สูง เช่น ถนนหฤทัยที่ผ่านอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล มวลน้ำขยายวงออกไปอีกราว 300 เมตร จากระลอกที่แล้วที่ถึงบริเวณห้าแยกโนนไฮ จุดนี้ชาวบ้านร้องขอเรือและรถบรรทุกเพิ่มเติม บางส่วนเป็นผู้ป่วยที่ต้องการเข้าไปโรงพยาบาล ขณะที่ถนนนนทนาคร รถทั่วไปก็ไม่สามารถสัญจรได้เช่นกัน ส่วนบริเวณแยกโรงเลื่อย รถเล็กสัญจรลำบาก
นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ให้ข้อมูลว่า 25 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้รับผลกระทบทั้งหมด มวลน้ำครอบคลุมพื้นที่ตัวเมืองถึงร้อยละ 70 แต่ยังน้อยกว่าปีที่แล้ว ที่มากถึงร้อยละ 95 มวลน้ำไหลทะลักเข้ามากสุดช่วงบ่าย 2 ถึง 6 โมงเย็นวานนี้ อัตราการเพิ่มน้อยลงในช่วงกลางดึกถึงเช้าวันนี้ ก่อนเริ่มทรงตัวในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย