กรุงเทพฯ 5 เม.ย. – พล.อ.เปรม เปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 30 ย้ำ ทุกศาสนาเป็นคนไทย มีสิทธิเท่าเทียม ขอให้รักชาติ ตอบแทนแผ่นดินด้วยการเป็นคนดี
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานเปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 30 ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี โดยปีนี้มีเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล เข้าร่วมจำนวน 321 คน มาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ใน 10 จังหวัดภาคกลาง เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การอยู่ร่วมกัน ทักษะอาชีพ วิถีชีวิต
พล.อ.เปรม ให้โอวาทตอนหนึ่งว่า เคยพูดกับเด็กอิสลามว่า พวกเขาเป็นคนไทย มีสิทธิ มีหน้าที่ตอบแทนแผ่นดิน เช่นเดียวกับคนไทยที่นับถือศาสนาอื่นๆ แต่ก็เคยมีเด็กมาบ่นกับตนเรื่องความไม่เป็นธรรม เลยบอกว่า ความไม่เป็นธรรม มีอยู่ทั่วโลก ดังนั้น ต้องแสวงหาความเป็นธรรม
“ต้องขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันทำให้เยาวชนเข้าใจว่า เขามีความเท่าเทียมกับเด็กศาสนาอื่น และได้ขอร้องเด็กๆ ว่า ให้ระลึกว่าเป็นคนไทย อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่จะมีการพระราชทานในวันพรุ่งนี้ (6 เม.ย.) ทุกคนจะมีสิทธิเท่าเทียมกัน” พล.อ.เปรม กล่าว
พล.อ.เปรม กล่าวว่า ตอนริเริ่มโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ได้ขอความช่วยเหลือจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย ซึ่งตอนนี้กระจายไปยังกระทรวงอื่นๆ ต้องขอบคุณ ต่อไปนี้ความระหองระแหงระหว่างไทยพุทธ ไทยอิสลามจะหมดไปในที่สุด ขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน เอาใจใส่ และชอบโครงการนี้
“อยากให้พวกเรานึกว่า เราเป็นคนไทย ต้องรักชาติไทย ตอบแทนแผ่นดินไทย ทำตัวเป็นคนดีของประเทศไทย” พล.อ.เปรม กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน มีการคัดเลือกเยาวชนเข้าร่วมโครงการไปแล้ว 29 รุ่น มีเยาวชนเข้าร่วมทั้งหมด 6,109 คน .-สำนักข่าวไทย