กรุงเทพฯ 4 เม.ย.- ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ การนั่งท้ายรถกระบะ อนุโลมให้เฉพาะในพื้นที่จัดให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์เท่านั้น และจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างจริงจัง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
พลตำรวจโทวิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (5 เม.ย. 60) จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการคาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งรถส่วนตัวและรถโดยสารสาธารณะ และการห้ามนั่งท้ายรถกระบะอย่างจริงจัง แต่การนั่งท้ายรถกระบะ จะอนุโลมให้อยู่เฉพาะในพื้นที่ที่จัดให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์เท่านั้น แต่หากมีการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ จะไม่อนุญาตให้นั่งท้ายรถกระบะเด็ดขาด โดยขอให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อความปลอดภัย โดยยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้มุ่งจับปรับ แต่เป็นการสร้างความรับรู้เรื่องความปลอดภัย และมีมาตรการป้องกันตำรวจเรียกรับผลประโยชน์จากการบังคับใช้กฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.30 น. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับตำรวจทั่วประเทศอีกครั้ง
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทย มีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รัฐบาลจึงมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่นครบาล จะมีการวางมาตรการเข้ม ทั้งการตั้งจุดตรวจถนนสายหลักในเวลากลางวัน และตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอลล์ ในเวลากลางคืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีการเดินทางของประชาชนจำนวนมาก
ด้านพลตำรวจตรีจิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยัน พรุ่งนี้จับปรับจริง ประชาชนไม่คาดเข็มขัดนิรภัย หากสุ่มตรวจพบ จะปรับขั้นต่ำ 100 บาท ทั้งคนขับและผู้โดยสาร แม้กฎหมายจะอนุญาตให้ปรับถึง 500 บาท แต่เป็นช่วงเริ่มต้น จึงอะลุ้มอะหล่วยเพื่อให้ประชาชนปรับตัว ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะ จะปรับหนักทั้งคนขับและผู้โดยสาร คนละไม่เกิน 5,000 บาท ตาม พรบ.ขนส่งทางบก.-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย