กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – ยอดขายน้ำมันบางจากฯ เดือนมีนาคมทำสถิติสูงสุด มั่นใจปีนี้ตามเป้าหมายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปี 59 ที่มียอดขายเฉลี่ย 300 ล้านลิตรต่อเดือน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า เดือนมีนาคม 2560 บางจากฯ มียอดขายน้ำมันทำสถิติสูงสุดถึง 330 ล้านลิตรต่อเดือน และมั่นใจว่ายอดขายน้ำมันเฉลี่ยปีนี้จะไม่ต่ำกว่านี้ โดยนับว่าเป็นยอดขายที่ทำได้ตามเป้าหมายที่จะเพิ่มร้อยละ 10 จากปี 2559 ที่มียอดขายเฉลี่ย 300 ล้านลิตรต่อเดือน
“ยอดขายที่เพิ่มขึ้นเกิดจากความนิยมผลิตภัณฑ์บางจากฯ ที่ใส่สารเพิ่มประสิทธิภาพ (additive ) มากกว่าผู้ค้ารายอื่น ๆ และจากที่บางจากฯ ปรับปรุงปั๊มให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพิ่มที่จอดรถ รวมถึงการเพิ่มธุรกิจ NON OIL จึงมีผลทำให้บางจากฯ มียอดขายสูงขึ้นไปด้วย” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ช่วงเดือนมีนาคมมีการปิดซ่อมบำรุงของบางส่วนของโรงกลั่นฯ อื่น ๆ เช่น ไออาร์พีซี เป็นหนึ่งเหตุผลให้ยอดขายบางจากฯ เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วยอดขายจะเพิ่มมากในฤดูกาลเดินทาง จึงมีโอกาสให้บางจากฯ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก คือ ช่วงเดือนเมษายน พฤศจิกายน และธันวาคม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของยอดขายเขต กทม.และปริมณฑลที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการจราจรที่ติดขัดมากขึ้นในเขตเมืองทั้งจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า รวมถึงสะพานไทย-เบลเยี่ยมที่ถูกไฟไหม้จนต้องปิดบริการชั่วคราว โดยการใช้น้ำมันของประเทศกลุ่มเบนซินเดือนมีนาคมขยายตัวร้อยละ 3.1 แต่บางจากฯ ขายได้ดีกว่าตลาดรวม
ทั้งนี้ ปัจจุบันบางจากฯ มีปั๊ม 1,075 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นปั๊มมาตรฐาน 400 แห่ง ที่เหลือเป็นปั๊มร่วมมือกับสหกรณ์และตั้งงบประมาณตั้งแต่ปี 2558-2562 วงเงิน 10,000 ล้านบาท มีปั๊มรวม 1,200 แห่ง ขณะที่งบลงทุนปี 2560 บางจากฯ ตั้งงบลงทุนประมาณ 18,500 ล้านบาท ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในขณะนี้มีทั้งธุรกิจไฟฟ้า สำรวจและผลิตปิโตรเลียม เหมืองลิเทียม และอื่น ๆ โดยล่าสุดคณะกรรมการ Lithium Americas Corp. เห็นชอบให้บางจากฯ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.85 เหรียญแคนาดา รวมมูลค่า 42.5 ล้านเหรียญแคนาดา ขั้นตอนทั้งหมดจะเสร็จประมาณเดือนเมษายน 2560 เพื่อเป็นเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการเหมืองลิเทียมของ Minera Exar S.A. (Cauchari Olaroz Project) ที่ประเทศอาร์เจนตินา คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ปี 2562
“ขณะนี้บางจากฯ มีกระแสเงินสดประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มทุนเหมืองลิเทียมไม่มีปัญหา รวมทั้งดูไปถึงการขยายงานด้านอื่น ๆ หากมีโอกาส โดยเหมืองลิเทียมนี้มีทิศทางสดใส เพราะดีมาด์นำไปใช้ทำแบตเตอรี่ ทั้งรถไฟฟ้า ธุรกิจไฟฟ้า สมาร์ทโฟนและอื่น ๆ โดยราคาตลาดโลกล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 22,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน” นายชันวัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย