กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมประเมินศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อฯ เสร็จทันปี 62 ดึงดูดค่ายรถยนต์ทั่วโลก ใช้ไทยเป็นฮับ R&D ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อัจฉริยะ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความก้าวหน้าโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ กรอบวงเงิน 3,705 ล้านบาท โดยรัฐลงทุนบนพื้นที่ 1,234 ไร่ เขตสวนป่าลาดกระทิง ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) รายงานว่าได้ว่าจ้างบริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด ร่วมกับแอพพลัส อีเดียด้า ประเทศสเปน เป็นที่ปรึกษาโครงการจัดทำแผนหลักและออกแบบการใช้พื้นที่ภาพรวมทั้งโครงการ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งขณะนี้มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานและคาดว่าระยะที่ 1 ส่วนทดสอบยางล้อ UN R117 จะสามารถดำเนินการได้ปี 2560 และโครงการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ปี 2562
ทั้งนี้ ปัจจุบันที่ปรึกษาโครงการส่งมอบงานแล้ว 4 งวด จาก 6 งวด ประกอบด้วย 1.แบบก่อสร้างอาคารสำนักงาน และร่าง TOR การก่อสร้างและการควบคุมก่อสร้างฯ 2.แบบก่อสร้างสนามทดสอบยางล้อ UN R117 และร่าง TOR การก่อสร้างและการควบคุมก่อสร้างสนามทดสอบฯ และ 3.รายละเอียดเครื่องมือทดสอบ UN R117 พร้อมด้วยข้อเสนอราคา และร่าง TOR การจัดซื้อเครื่องมือฯ โดยจะสามารถลงนามในสัญญาจ้างตาม TOR ได้ทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายน 2560 และจะใช้เวลาสร้างเสร็จรวมระยะเวลาตรวจรับงานภายในวันที่ 31 มีนาคม 2561 ส่วนเครื่องมือทดสอบจะส่งมอบภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 สำหรับการปรับพื้นที่อยู่ระหว่างการจัดจ้าง ผู้รับจ้างเพื่อปรับพื้นที่ กรอบวงเงิน 43.8 ล้านบาท
นายอุตตม กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ นับเป็นเมกะโปรเจกต์หนึ่งของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนการผลิตและการส่งออกยางล้อ ยานยนต์ และชิ้นส่วน และให้ไทยเป็นศูนย์กลางการทดสอบฯ ของภูมิภาคอาเซียน โครงการนี้จะช่วยยกระดับประเทศจากการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ (Production Hub) สู่การเป็นฐานการวิจัยและพัฒนายานยนต์และชิ้นส่วน (R&D Hub) ซึ่งจะดึงเม็ดเงินใหม่ ๆ เข้ามา เพราะรถ 1 คัน มีชิ้นส่วนภายใน 2-30,000 ชิ้น และในอนาคตอะไหล่ชิ้นส่วนรถจะใช้เทคโนโลยีสูงและมีมูลค่าเพิ่มสูง การลงทุนสร้างศูนย์ทดสอบกลางฯ ให้บริษัทรถยนต์ทุกค่ายมาใช้โดยเก็บค่าบริการจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมยานยนต์ ลักษณะเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ และสเปน ดำเนินการ ทำให้การลงทุนในไทยมีค่าใช้จ่ายของการตรวจสอบและรับรองต่ำที่สุดและน่าจะเป็นตัวดึงดูดบริษัทผู้ผลิตรถยนต์มาลงทุนออกแบบวิจัยและพัฒนาฯ ในไทยสอดคล้องกับ ครม.มีมติอนุมัติหลักกา ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัยใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเหลืออัตราร้อยละ 17
ด้านนายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ล่าสุดคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ได้ไปศึกษารูปแบบวิธีการบริหารจัดการของศูนย์ทดสอบยานยนต์ของแอพพลัส อีเดียด้า ประเทศสเปน เพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศไทย รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ สมอ.และสถาบันยานยนต์ 5 คน ร่วมฝึกอบรมหลักสูตรการทดสอบยางล้อและการตรวจสอบรับรองผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน UN R117 เป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยได้เยี่ยมชมสนามทดสอบและห้องปฏิบัติการที่อยู่ในแผนของโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์ฯ ของไทย สำหรับโครงการฯ ระยะที่ 1 จะเป็นส่วนทดสอบยางล้อ UN R117 ประกอบด้วย สนามทดสอบเสียงจากยางล้อ และการยึดเกาะถนนพื้นเปียก ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร รวมทั้งห้องทดสอบความต้านทานการหมุนของล้อ มีกำหนดเสร็จช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 และโครงการระยะที่ 2 สมอ.อยู่ระหว่างการของบประมาณประจำปี 2561 เพื่อออกแบบรายละเอียดและก่อสร้างรวมอีก 5 สนามย่อย.-สำนักข่าวไทย