กทม. 10 พ.ย.- เกิดเหตุผู้โดยสารพลัดตกท่าเรือด่วนคลองแสนแสบที่ท่าเรือนานาชาติ สุขุมวิท 15 นักประดาน้ำมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งใช้กว่า 3 ชั่วโมงงมจนเจอร่าง และพบว่าเคยเป็นผู้บาดเจ็บจากระเบิดท้ายเรือโดยสารในคลองแสนแสบขณะเทียบท่าวัดเทพลีลา เมื่อ 5 มีนาคมที่ผ่านมา
ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะผู้โดยสารชายสวมเสื้อสีขาว กางเกงขายาว ก้าวขึ้นจากเรือด่วนคลองแสนแสบ ที่ท่าเรือนานาชาติ ซอยสุขุมวิท 15 ขณะเรือยังเทียบท่าไม่สนิท ทำให้ชายคนดังกล่าวพลาดหงายหลังตกลงไปในคลอง สร้างความตกใจให้ผู้โดยสารขณะที่คนขับเรือได้ขับเรือออกจากท่าไปตามเส้นทาง
หลังเกิดเหตุตำรวจ สน.มักกะสัน ประสานเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง งมค้นหาผู้โดยสารคนดังกล่าว โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงพบร่าง ทราบชื่อคือนายธีรพงษ์ ศิลาฤทธิ์ อายุ 50 ปี พบศพห่างจากท่าเรือประมาณ 20 เมตร เพราะถูกกระแสน้ำและแรงดันของเรือพัดไปอยู่ฝั่งตรงข้ามท่าเรือ
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ผู้โดยสารได้พลัดตกจากเรือ เนื่องจากก้าวพลาดและหงายหลังตกน้ำลงไป ยืนยันว่าในชั่วโมงเร่งด่วน มีเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่ามาคอยดูแลความปลอดภัยทุกท่าเรือ แต่ยอมรับว่ามีผู้โดยสารจำนวนมากใช้บริการ และบางคนก็รีบขึ้นเรือโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม จึงได้แต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่โดยสารเรือด่วนคลองแสนแสบ ใช้ความระมัดระวังในการโดยสารเรือ โดยเฉพาะการก้าวขึ้นจากเรือควรให้เรือจอดเทียบท่าสนิทเสียก่อน นอกจากนี้ ยังได้ประสานกับเจ้าของเรือ และคนขับเรือ ให้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และส่งศพชันสูตรเพื่อหาสาเหตและตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือไม่ เนื่องจากขณะตกน้ำไม่มีการยกมือขึ้นมาขอความช่วยเหลือ
พนักงานบริษัทในละแวกที่เกิดเหตุ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้โดยสารที่มาเรือด่วนขึ้นที่ท่าเรือแห่งนี้ไม่มากนัก เจ้าหน้าที่ประจำเรือมักจะไม่คล้องเชือกให้เรือจอดเทียบท่าสนิท ทำให้ผู้โดยสารต้องกระโดดขึ้นมาจากเรือและอาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยได้
สำหรับนายธีระพงศ์ ผู้เสียชีวิต เคยเป็น 1 ในผู้ได้รับจากเหตุระเบิดท้ายเรือโดยสารในคลองแสนแสบขณะเทียบท่าวัดเทพลีลา เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย