กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – บล.ภัทร คาด กนง.วันพรุ่งนี้คงดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.50 ชี้แนวโน้มบาทระยะสั้นยังแข็งค่าอาจแตะ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าทีมวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อไป และจะคงไว้ตลอดปีนี้ เนื่องจากยังเป็นระดับที่เอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและไทยยังเกินดุลบัญชีสะพัดสูงและทุนสำรองระหว่างประเทศสูง ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อยังไม่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม หากธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้อย่างที่คาดไว้ดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 1.50 เท่ากับดอกเบี้ยนโยบายของไทย ซึ่งเชื่อว่า กนง.คงจะพิจารณาสภาพเศรษฐกิจขณะนี้อีกครั้ง
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทนั้น เชื่อว่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่าระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากเมื่อเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยครบ 3 ครั้ง เงินทุนต่างชาติจะไหลออกและเงินดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาแข็งค่าตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้น แต่ระยะสั้นอาจเห็นค่าเงินบาทแข็งค่าช่วงนี้ โดยอาจแตะระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐได้ เนื่องจากยังมีกระแสเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรระยะสั้นของไทย เพราะมองว่าเป็นที่พักเงินที่ปลอดภัย บวกกับเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า เพราะนักลงทุนผิดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถอนร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ ออกจากที่ประชุมสภาคองเกรส หลังไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอ ทำให้เงินบาทแข็งค่าเร็ว แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เข้ามาแทรกแซงเป็นระยะ ๆ ก็ตาม โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 9,000 ล้านบาท จากปี 25 59 ที่ต่างชาติขายสุทธิ 78,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย